... ไม่รู้ว่ามีใครเคยอ่านหนังสือ "Yellow Cabby แท็กซี่นิวยอร์ก By smartupid" สำนักพิมพ์ a day บ้างรึเปล่า
ถึงจะไม่เคยนั่งแทกซีื่เหลืองที่นิวยอร์ก (ตอนไป Outlet นั่นไม่ถือว่านับละกัน เพราะเหมารถกันไปทั้งวัน แถมไม่ใช่รถแทกซี่สีเหลืองแบบวิ่งในเมืองด้วย) แต่ด้วยความที่เคยไปนิวยอร์ก และเคยนั่งแทกซี่ ก็เลยจินตนาการตามไปได้อย่างไม่ยากเย็น (แต่สำหรับคนที่ไม่เคยไป ก็ลองหยิบมาอ่านดูละกัน รับประกันความมันส์)
หลายๆคนก็น่าจะเป็นเหมือนเรา คือเวลาที่ได้อ่านหนังสือที่ถ่ายทอดเรื่องราวของคนคนหนึ่ง หรือกลุ่มนึง ในมุมมองของเขาที่เราอาจจะไม่เคยรับรู้ เราก็มักจะรู้สึก 'เห็นใจ' ไปกับสิ่งที่เกี่ยวข้องกับเขาด้วย
เช่น อ่าน 'พลังแห่งความสำเร็จ สตาร์บัคส์' แล้วก็รู้สึกดีกับสตาร์บั๊ก อ่าน 'Happy แบรนด์พลิกคน คนพลิกแบรนด์' ของ ธนา เธียรอัจฉริยะ ก็ปลื้มกับ DTAC (ถึงตอนนี้จะใช้ทรูมูฟก็เหอะ ฮี่)
ดังนั้น อ่าน Yellow Cabby ก็น่าจะเห็นใจแทกซี่บ้าง...
... แต่ ถ้าแทกซี่ประเทศไทยเป็นอย่างนี้ คงไม่มีวันซะล่ะ...
... เชื่อว่า ถามคนร้อยทั้งร้อย ทุกคนต้องมีประสบการณ์เห่ยๆ กับการนั่งแทกซี่มาแล้ว... และหลายคนคงจะหลายครั้งด้วย
บางเรื่องก็พอจะเห็นใจพี่แกนะ นั่งรอคิวที่หมอชิตสองตั้งนาน แต่ดันให้ไปส่งแค่เซ็นทรัลแค่เนี้ยะ ก็น่าเคืองอยู่หรอก แต่ขอโทษเหอะ พี่แกเล่นโวยวาย อารมณ์เสีย บ่นงึมงำตลอดทาง ขับรถกระชากไปมา... ตอนแรกก็หวังจะให้เงินเกินอยู่หรอกนะ แต่เล่นแบบนี้อย่าหวังจะได้แอ้ม...
ไม่ก็ นั่งแทกซี่กันมาหลายคน พอตูลงระหว่างทาง มันจะเก็บตังคนที่เหลือเพิ่มซะงั้น ไม่งั้นไม่ไปต่อ ดูดู๊ดู ดูมันทำ รู้ว่าถ้าไม่ไปต่อกับมันก็ต้องเสียอีก 35 บาท เลวจริงๆ
และไม่ต้องพูดถึงแทกซี่ซิ่งนรก ไม่รู้ไปกินยาอะไรมา โน่นเลย จะเลี้ยวขวาที่สี่แยก พี่แกแซงขวา วิ่งเลนสวน! แมร่งงงงง แยกอยู่ตั้งไกล แกก็ดันจะวิ่งเลนสวน (เพราะตอนนั้นไฟเลี้ยวขวาเปิด เลยไม่มีรถวิ่งสวนมา) พี่แกเหยียบปื๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด แต่ขอโทษ ... ไม่ทันว่ะ ... ตูล่ะกลั้นหายใจลุ้นแทบตายย ไฟแดงซะงั้น เลยได้กลั้นหายใจต่อ เพราะรถแทกซี่ดันไปขวางเลนสวนเค้าไว้ ทำให้รถอีกฝั่งต้องเบียดกันเอง -_-
แต่ทั้งหมดนี้ คงไม่มีอะไรน่ารำคาญไปกว่า การ 'ไม่รับผู้โดยสาร'
ในพันทิปก็มีคนบ่นจนขึ้นกระทู้แนะนำกันแล้ว
ไม่เป็นไร ขอบ่นที่นี่อีกคนนึง
อุตส่าห์เดินข้ามไปฝั่งสวนลุมไนท์ จะได้ขึ้นทางด่วนสบายๆไม่ต้องอ้อม... อะ เห็นมีแทกซี่จอดอยู่สองคันหน้าทางออกรถใต้ดิน ก็เดินเข้าปายย
'ไปเซ็นทรัลลาดพร้าวครับ'
'...' (ส่ายหน้าหงึๆ ไม่ไป)
ชิ
เอาละ่ คันหลังก็ได้ พี่คนขับแกน่าจะรอลูกค้ามาพักนึงแล้ว เพราะแกออกมายืนนอกรถกินลมไปพลางๆ
'ไปเซ็นทรัลลาดพร้าวครับ'
'อ๋อ ไม่ไปครับ รอแฟนอยู่'
"..."
คงไม่ต้องบอกว่าหลังจากเดินให้หลังไม่ถึงนาที พอฝรั่งมาปุ๊บ พี่แกออกรถไปทั้งสองคัน
(แฟน พ่-งสิวะ เป็นลุงอ้วนฝรั่งหัวโล้น)
ความอดทนใกล้ถึงขีดจำกัด ฝากความหวังไว้อีกคันนึง
แหม คราวนี้เจอแทกซี่ดีครับ น้ำใจงามมาก หลังจากทราบจุดหมายแล้วก็ยิ้มงามๆ และเอ่ยปากว่า
"โหย เซนทรัลลาดพร้าว มันไกลนะพี่ ไม่มีใครไปหรอก ทำไมพี่ไม่นั่งรถไฟฟ้าอะ เร็วกว่าด้วย"
"....."
แทบจะน้ำตาไหลไปกับความหวังดีของมัน ไม่ก็ให้กับความแอ๊บโง่หาที่ไม่รู้จะหาใครเทียบได้ แหม่ คนที่เขานั่งรถใต้ดินคงไม่มาโบกแทกซี่ให้เมื่อยหรอกมั้ง ประตูก็อยู่ข้างหน้าเนี่ย!@#)(#)$!@#
ถึงจะไม่เคยนั่งแทกซีื่เหลืองที่นิวยอร์ก (ตอนไป Outlet นั่นไม่ถือว่านับละกัน เพราะเหมารถกันไปทั้งวัน แถมไม่ใช่รถแทกซี่สีเหลืองแบบวิ่งในเมืองด้วย) แต่ด้วยความที่เคยไปนิวยอร์ก และเคยนั่งแทกซี่ ก็เลยจินตนาการตามไปได้อย่างไม่ยากเย็น (แต่สำหรับคนที่ไม่เคยไป ก็ลองหยิบมาอ่านดูละกัน รับประกันความมันส์)
หลายๆคนก็น่าจะเป็นเหมือนเรา คือเวลาที่ได้อ่านหนังสือที่ถ่ายทอดเรื่องราวของคนคนหนึ่ง หรือกลุ่มนึง ในมุมมองของเขาที่เราอาจจะไม่เคยรับรู้ เราก็มักจะรู้สึก 'เห็นใจ' ไปกับสิ่งที่เกี่ยวข้องกับเขาด้วย
เช่น อ่าน 'พลังแห่งความสำเร็จ สตาร์บัคส์' แล้วก็รู้สึกดีกับสตาร์บั๊ก อ่าน 'Happy แบรนด์พลิกคน คนพลิกแบรนด์' ของ ธนา เธียรอัจฉริยะ ก็ปลื้มกับ DTAC (ถึงตอนนี้จะใช้ทรูมูฟก็เหอะ ฮี่)
ดังนั้น อ่าน Yellow Cabby ก็น่าจะเห็นใจแทกซี่บ้าง...
... แต่ ถ้าแทกซี่ประเทศไทยเป็นอย่างนี้ คงไม่มีวันซะล่ะ...
... เชื่อว่า ถามคนร้อยทั้งร้อย ทุกคนต้องมีประสบการณ์เห่ยๆ กับการนั่งแทกซี่มาแล้ว... และหลายคนคงจะหลายครั้งด้วย
บางเรื่องก็พอจะเห็นใจพี่แกนะ นั่งรอคิวที่หมอชิตสองตั้งนาน แต่ดันให้ไปส่งแค่เซ็นทรัลแค่เนี้ยะ ก็น่าเคืองอยู่หรอก แต่ขอโทษเหอะ พี่แกเล่นโวยวาย อารมณ์เสีย บ่นงึมงำตลอดทาง ขับรถกระชากไปมา... ตอนแรกก็หวังจะให้เงินเกินอยู่หรอกนะ แต่เล่นแบบนี้อย่าหวังจะได้แอ้ม...
ไม่ก็ นั่งแทกซี่กันมาหลายคน พอตูลงระหว่างทาง มันจะเก็บตังคนที่เหลือเพิ่มซะงั้น ไม่งั้นไม่ไปต่อ ดูดู๊ดู ดูมันทำ รู้ว่าถ้าไม่ไปต่อกับมันก็ต้องเสียอีก 35 บาท เลวจริงๆ
และไม่ต้องพูดถึงแทกซี่ซิ่งนรก ไม่รู้ไปกินยาอะไรมา โน่นเลย จะเลี้ยวขวาที่สี่แยก พี่แกแซงขวา วิ่งเลนสวน! แมร่งงงงง แยกอยู่ตั้งไกล แกก็ดันจะวิ่งเลนสวน (เพราะตอนนั้นไฟเลี้ยวขวาเปิด เลยไม่มีรถวิ่งสวนมา) พี่แกเหยียบปื๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด แต่ขอโทษ ... ไม่ทันว่ะ ... ตูล่ะกลั้นหายใจลุ้นแทบตายย ไฟแดงซะงั้น เลยได้กลั้นหายใจต่อ เพราะรถแทกซี่ดันไปขวางเลนสวนเค้าไว้ ทำให้รถอีกฝั่งต้องเบียดกันเอง -_-
แต่ทั้งหมดนี้ คงไม่มีอะไรน่ารำคาญไปกว่า การ 'ไม่รับผู้โดยสาร'
ในพันทิปก็มีคนบ่นจนขึ้นกระทู้แนะนำกันแล้ว
ไม่เป็นไร ขอบ่นที่นี่อีกคนนึง
--------------------------
เรื่องของเรื่อง เมื่อวาน กลับบ้านดึก ออกจากออฟฟิศมาก็ขี้เกียจนั่งรถใต้ดิน เพราะต้องเดินกลับบ้านอีกสักสิบนาที หิวก็หิวเพราะยังไม่ได้กินข้าวเย็น... ก็เลยว่าจะนั่งแทกซี่ขึ้นทางด่วนกลับบ้านซะเลยอุตส่าห์เดินข้ามไปฝั่งสวนลุมไนท์ จะได้ขึ้นทางด่วนสบายๆไม่ต้องอ้อม... อะ เห็นมีแทกซี่จอดอยู่สองคันหน้าทางออกรถใต้ดิน ก็เดินเข้าปายย
'ไปเซ็นทรัลลาดพร้าวครับ'
'...' (ส่ายหน้าหงึๆ ไม่ไป)
ชิ
เอาละ่ คันหลังก็ได้ พี่คนขับแกน่าจะรอลูกค้ามาพักนึงแล้ว เพราะแกออกมายืนนอกรถกินลมไปพลางๆ
'ไปเซ็นทรัลลาดพร้าวครับ'
'อ๋อ ไม่ไปครับ รอแฟนอยู่'
"..."
คงไม่ต้องบอกว่าหลังจากเดินให้หลังไม่ถึงนาที พอฝรั่งมาปุ๊บ พี่แกออกรถไปทั้งสองคัน
(แฟน พ่-งสิวะ เป็นลุงอ้วนฝรั่งหัวโล้น)
ความอดทนใกล้ถึงขีดจำกัด ฝากความหวังไว้อีกคันนึง
แหม คราวนี้เจอแทกซี่ดีครับ น้ำใจงามมาก หลังจากทราบจุดหมายแล้วก็ยิ้มงามๆ และเอ่ยปากว่า
"โหย เซนทรัลลาดพร้าว มันไกลนะพี่ ไม่มีใครไปหรอก ทำไมพี่ไม่นั่งรถไฟฟ้าอะ เร็วกว่าด้วย"
"....."
แทบจะน้ำตาไหลไปกับความหวังดีของมัน ไม่ก็ให้กับความแอ๊บโง่หาที่ไม่รู้จะหาใครเทียบได้ แหม่ คนที่เขานั่งรถใต้ดินคงไม่มาโบกแทกซี่ให้เมื่อยหรอกมั้ง ประตูก็อยู่ข้างหน้าเนี่ย!@#)(#)$!@#
------------------
สุดท้าย ก็ต้องจำใจรับคำแนะนำจากแทกซี่ผู้แสนดีคนนั้น ด้วยการรถใต้ดินและเดินกลับบ้านเหมือนเดิม...
น่าสงสารคนไทยจริงๆ... กระทั่งอยู่ในประเทศตัวเองยังเป็นพลเมืองชั้นสอง แล้วจะมีที่ไหนมั้ยเนี่ยที่ treat พวกเราเป็นพลเมืองชั้นหนึ่ง
จริงๆแล้วพี่แทกซี่ที่แสนดีคนนั้น ก็น่าจะพูดไปเลยนะว่า 'โหย พี่นั่งใต้ดินไปเหอะ โบกอีกสิบคันก็คงไ่ม่มีใครไปหรอก แถวนี้เค้ารอจอดรับฝรั่งทั้งนั้นแหละ'
น่าสงสารคนไทยจริงๆ... กระทั่งอยู่ในประเทศตัวเองยังเป็นพลเมืองชั้นสอง แล้วจะมีที่ไหนมั้ยเนี่ยที่ treat พวกเราเป็นพลเมืองชั้นหนึ่ง
จริงๆแล้วพี่แทกซี่ที่แสนดีคนนั้น ก็น่าจะพูดไปเลยนะว่า 'โหย พี่นั่งใต้ดินไปเหอะ โบกอีกสิบคันก็คงไ่ม่มีใครไปหรอก แถวนี้เค้ารอจอดรับฝรั่งทั้งนั้นแหละ'
คนไทยไม่ได้หลอกไม่เปิดมิเตอร์กันได้ง่าย ๆ นี่นา...
วันก่อนจะไปโออิชิเอ็กเพรสกับพวกที่ทำค่าย
พอเรียกแท็กซี่ พี่แกบอกไม่รับด้วยเหตุผลสักอย่าง (ถ้าไม่ใช่ว่าเห็นกองทัพใส่เสื้อดำทะมึน ก็คงเพราะไม่อยากไปหลักสี่)
ก่อนที่ผมจะปิดประตู แพรวสวยก็พูดดังๆ ขึ้นมาว่า
"ไม่เป็นไรหรอก แท็กซี่มีอีกเป็นล้านคัน"
เสี้ยววินาทีก่อนที่ประตูจะปิด ได้ยินแท็กซี่ด่าอยู่แว้บๆ
โหย เด็กๆเลย
เวลาไปสยามแล้วกลับค่ำๆเนี่ย แทบอยากเดินเท้ากลับรพ.
มีอยู่ครั้งนีง ยืนเรียกแท็กซี่ตั้งแต่1ทุ่ม-3ทุ่ม -__-"