Surviving Bangkok Street (2)

ต่อจากตอนที่แล้ว... กับหลายเหตุผลที่ว่าทำไมคนกรุงเทพถึงไม่ชอบเดินถนน

5. เพื่อนร่วมโลก

มนุษย์ ไม่ใ่ช่สิ่งมีชีวิตประเภทเดียวบนฟุตบาทกรุงเทพมหานคร หากแต่ยังมี แมลงสาบ หนู หมา หรือแม้กระทั่งช้าง!? (รวมถึงสิ่งปฏิกูลจากสรรพสัตว์เหล่านี้) เป็นเพื่อนร่วมทางไปด้วย นี่ยังช็อคไม่หาย เพราะเมื่อคืนวันพฤหัสที่ผ่านมา เดินกลับ บ้านอยู่ดีๆก็มีความรู้สึกว่ามีอะไรวิ่งตัดหน้า จะหลบก็ไม่พ้น เลยเตะ 'ป้าบ' เข้าให้... มองไปก็เห็น 'หนู' ตัวบะเอ้ก วิ่งจู๊ดเข้าไปหลบข้างทาง... T_T สัพเพสัตตา.. ดีนะที่วันนั้นไม่ได้ใส่รองเท้าแตะ ไม่งั้นคงได้ขัดเท้าเป็นชั่วโมง

6. ทรูมูฟ

ข้อนี้น่าจะเป็นเหตุผลที่ อันตราย ต่อชีวิตคนเดินถนนมากที่สุดแล้ว ซึ่งคุณพอ ได้คอมเม้นต์มาตรงใจสุดๆสำหรับเรื่อง 'เลนจักรยาน' ที่อยู่ดีๆก็เอามาขีด 'กลางฟุตบาท' จนแทบไม่มีที่เดิน ที่แย่ไปกว่านั้นคือ ไอ้ที่วิ่งจริงๆบนเลนจักรยานมันดันไม่ใช่จักรยาน แต่เป็นมอเตอร์ไซค์ ซึ่ง สองล้อติดเครื่องพวกนี้พร้อมจะจู่โจมจากข้างหลัง โดยไม่แจ้งสัญญาณเตือนใดๆทั้งสิ้น นี่ก็เกือบจะโดนชนไม่รู้กี่รอบแล้ว แต่ที่แน่ๆคือมอไซค์พวกนี้ เึคยชนกับรถที่บ้านตอนกำลังจะออกถนนใหญ่มาแล้วครั้งนึง คืองี้ ปกติเวลาคนจะขับรถออกจาซอกไปถนนใหญ่ ก็ต้องมองขวาดูรถที่ถนนใหญ่เอาไว้ใช่มะ แล้วเวลาปีนออกจากซอกเนี่ย คนเค้าก็ไม่คิดหรอกว่าฟุตบาทมันจะมีอะไรนอกจากคน ซึ่งถ้ารถพุ่งออกมาไม่เร็วนักยังไงคนก็หลบทันอยู่แล้ว นี่อยู่ดีๆพี่แกวิ่งพุ่งสวนมาจากด้านซ้าย แล้วเป็นมอเตอร์ไซค์ วิ่งมาแบบนั้นแกก็เบรกไม่ทันน่ะสิ ชนโครมเข้าให้... เซ็ง

ทุกวันนี้จะออกจากบ้านต้องเหลียวซ้ายแลขวา เดินกลับบ้านก็ต้องระวังหลังอีัก เศร้า

7. ขายตรง

สุดท้ายที่ถึงไม่ทำให้บาดเจ็บอะไร แต่ก็ทำเสียอารมณ์น่าดู คือบรรดา เซลล์ ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น

  • ขอทาน (ล่าสุดที่เห็นมานี่ครีเอทมากๆ เป็น ขอทานไร้คน!! พี่แกเล่นทิ้งลูกหมาขนาดกำลังน่ารักสักห้าตัว เบียดเสียดในตระกร้าเล็กๆ แล้ววางถ้วยทิ้งไว้ พร้อมป้ายขอตังค์จะได้เอาไปซื้อค่าอาหารหมา เป็นไงล่ะ!!! เอากับเค้าสิ!! ไม่ต้องเหนื่อยตัวเองเลยสักนิด)
  • พวกยัดเยียดสติ๊กเกอร์ เกลียด สุดๆไอ้พวกนี้ ทำเหมือนจะแจกแผ่นพับแต่กลับเป็นสติ๊กเกอร์ แล้วคิดตังค์ยี่สิบบาทซะงั้นอะ ชาติหน้าตอนบ่ายๆเหอะถึงจะจ่ายให้ ชิ (ไม่อยากชี้แนะสักเท่าไหร่ แต่ลองคิดดูสิว่า สมมุติแจกสติ๊กเกอร์ให้ก่อน แล้วขอ 'บริจาค' ตังค์ ทีหลังอะ คนที่เค้าได้สติ๊กเกอร์คงไม่เสียมู้ด และน่าจะมีโอกาสควักกระเป๋าให้พี่มากกว่าวิธี มัดมือชก แบบนี้ซะอีก)
  • เซลล์ขายบัตรส่วนลด / เซลล์ขายฟิตเนส ฮู้ยยย ใช่ครับพี่ ที่พี่พูดมาเนี่ย ถูกหมดแหละ ประหยัดจริง เซฟตังค์ได้จริง แต่มีข้อแม้อย่างเดียว คือพี่จะต้องให้ผมต้องไปใช้บริการ ในสิ่งที่ผมไม่อยากจะใช้เลยเนี่ยนะ!?
  • เซลล์เด็กนักเรียน เบื่อมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกก ไม่รู้เพราะอะไร จริงๆแล้วเกลียดหน่วยงานที่ใช้วิธีนี้มาหารายได้จริงๆ คือถ้าทำเป็นครั้งคราวไม่เท่าไหร่ นี่เล่นทำตลอดปีตลอดชาติ พอดีไม่เคยเข้าไปคุยด้วยเลยไม่รู้ว่าเค้าจะเอาเงินไปทำอะไร (ใครเคยโดนมาบอกหน่อยดิ)ล่าสุดเจอกลยุทธ์แบบใหม่ ใช้หลักจิตวิทยาด้วยการ 'ระบุเจาะจงเป้าหมายอย่างชัดเจน' นี่เลย เดินอยู่ดีๆ น้องแกตะโกนมา ' พี่เสื้อขาวขอรบกวนเวลาแป๊บนึงค่ะ!' น่านนนน ภาพบทความในหนังสือ Influence of Psychology ลอยมาพอดีเป๊ะ ...

หนังสือนี้ระบุไว้ว่า เวลาเราต้องการความช่วยเหลือในที่สาธรณะ เราอาจเผชิญกับเหตุการณ์ที่ว่า แหกปาก 'ใครก็ได้ช่วยด้วย' แทบตาย คนผ่านไปมาก็เยอะแยะ แต่ไม่มีใครมาช่วยเราซะงั้น

สาเหตุก็เพราะว่า ต่างคนต่างคิดว่า เดี๋ยวคงมีใครสักคนมาช่วยสักทีแหละน่า หรือไม่ก็เกิดความไม่แน่ใจว่า จะเข้าไปช่วยดีหรือเปล่า ดังนั้น วิธีแก้ปัญหานี้ ก็คือให้ตะโกน ระบุคนที่เราต้องการให้มาช่วยซะ เพราะคนๆนั้นจะได้รู้ว่าเราต้องการความช่วยเหลือจาก เขา เป็นการผูกมัดสัญญาทางใจทันที เพราะถ้าเขาไม่มาช่วยเรา เขาก็จะรู้สึกผิดต่อเราทันที นอกจากนั้นเขายังได้รับแรงกดดัน ที่กลัวคนอื่นๆจะมองตนไม่ดีอีกด้วย

เขียนไปเขียนมาก็นึกถึงตอนที่เอกเรียกชื่อเพื่อนหลายๆคนในภาค ให้ฟังประชุม ซึ่งผลออกมากลายเป็นว่า เวิร์คบ้างไม่เวิร์คบ้าง เพราะการตัดสินใจยอมทำตามนั้น ไปขึ้นอยู่กับความรู้สึกผิดที่ไม่ช่วยเอกเพียงคนเดียว ไม่ได้มี Group pressure เข้ามาช่วยด้วย

ซึ่งถ้าพิจารณาเรื่องเซลล์เด็กนักเรียนนี้แล้ว คงไม่ต้องเดาว่าผลจะเป็นอย่างไร โอเค อาจจะรู้สึกผิดบ้างที่ไม่ได้สนใจน้องเค้า แต่น้องเค้าก็เป็นแค่ somebody และถ้าเราไม่ช่วยเค้าก็ไม่ได้เดือดร้อนอะไรเท่าไหร่ แถม Group Pressure ก็ไม่มี ยิ่งไปกว่านั้นความคิดเรื่องหลักจิตวิทยายังลอยเข้ามาอีก ทำให้เรามองโลกในแง่ร้ายว่าน้องเค้ากำลังใช้เครื่องมือทางจิตวิทยามากดดันเราอีกซะงั้น สรุปก็เลยแค่ส่งยิ้มให้ แล้วเดินต่อไปแบบไม่มีอะไรเกิดขึ้น... (ใจดำจริงเล้ยยย)

เริ่มด้วยฟุตบาท ไหงมาจบหลักจิตวิทยาได้เนี่ย... งง 555

2 Comments
  1. # Blogger Paul_012

    ขาดเรื่องการข้ามถนนนะนี่...

    ว่าแต่... ไหงไป ๆ มา ๆ จะกลายเป็นเราผูกขาดพื้นที่ comments ซะแล้ว  

  2. # Blogger Unknown

    อืม มีคนผูกขาดที่ Multiply เหมือนกัน 55  

Post a Comment

{J}aroz' Blog

Location : Bangkok, Thailand, Planet Earth

{J} Trip

 

  • {J} Life

{J} Links

  • =A^o^N= วิดวะแบกเลนส์ถือกล้องไปถ่ายรูป
  • Bliss* live / storythai พลอยพีพี ผู้มีสองมาตรฐาน (บล็อก)
  • Empty Space บล็อกลิงเล่นเบส
  • LittleJournal บล็อกสุดฮาของสาวภาคคอม ผู้(เคย)ไม่รู้จัก silicon valley
  • Ma-mEw"z เหมี่ยว เพื่อนเวิร์ค
  • NuttyGM มันหายไปไหนแล้ววะตอนนี้
  • Nisa บล็อกอินเตอร์ บาย โบ
  • Nsom บล็อกป้าหมอ ที่หริราด
  • TeddyBank แบงค์กี้ เดอะหมีวิคตอเรีย chu chu
  • [Z]kyha[x] ไอ้ตี๋ ผู้เล่นเกมส์พิซซ่าเป็นนิจ

{J} Archives

คลังบล็อกเก่า(month.year)



Search

Web Jaroz' Blog

Creative Commons License
This work is licensed under a Creative Commons Attribution-Noncommercial-Share Alike 3.0 License. XML

Powered by Blogger

make money online blogger templates



© 2007 Jaroz' blog |Original Template by Gecko and fly
Revolution2 : Path to the future! Version since 29 Aug 2007
First Published on 24 Oct 2004