G'Bye Macau, Hello HK!! (Ep 4)

ในที่สุด เอนทรี่ีนี้คงได้ไปถึงฮ่องกงสักที ^^" สำหรับสถานที่ใน HK ที่เขียนไว้ในบล็อกนี้ ส่วนมากได้บันทึกไว้บน Google Maps แล้ว เข้าไปดูได้ที่นี่

---- 10 Kun Iam Temple ----

เริ่มต้นวันใหม่ด้วยอาหารเช้าจากร้านบะหมี่ที่ไปกินตอนบ่ายเมื่อวาน เสียดายที่ตอนเช้ายังไม่มีโจ๊กให้สั่ง เลยลองสั่งขนมปังดู เป็นสไตล์ขนมปังฝรั่งเศส กรอบนอก นุ่มใน ใส่หมูบาร์บีคิว อร่อยใช้ได้ เสียอย่างเดียวที่ต้องระวังกระดูก

หลังจากออกมาและรอแทกซี่สักระยะ เราก็ได้แทกซี่ 5 คนไปวัดเจ้าแม่กวนดิมกัน (Kun Lam Temple) ซึ่งว่ากันว่าเก่าแก่มาก สร้างเมื่อประมาณศตวรรณที่ 13 (ก็คงราวๆ 700-800 ปี เลยทีเดียว) แน่นอนว่าโปรแกรมนี้ถูกใจคุณแม่กับหยี่อี๊เป็นที่สุด (เห็นบอกว่ามีนักการเมืองไทยหลายคนก็เคยมาที่นี่!?) คราวนี้เลยลงทุนซื้อธูปขดๆ ไปจุดด้วย

บริเวณภายในวัด (ชั้นแรก) และที่เผากระดาษ (เผากันได้น่ากลัวมาก)



---- 11 Ruin of St. Paul ----

เนื่องจากบริเวณวัดไม่ได้เป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญเ่ท่าไหร่ (เห็นแต่ชาวมาเก๊า ไม่ก็คนจีนมาลงกัน) เลยไม่แน่ใจว่าป้ายรถเมล์อยู่ไหน (ถ้านั่งรถเมล์มามีสิทธิ์เลยชัวร์) ปรากฏว่าพอออกจากวัดเท่านั้นแหละก็เห็นรถแทกซี่ 5 คนผ่านมาพอดี อะไรจะโชคดีอย่างนี้ (หรือว่ามาจากความศักดิ์สิทธิ์ของวัดก็แล้วแต่จะคิดเน่อ ^^)

เราย้อนกลับไปที่ Senado Sq. อีกครั้ง เมื่อลงจากแทกซี่ก็ขอแวะเข้าไปที่ตึกไรสักอย่าง (ไม่รู้จริงๆว่ามันคืออะไร 55) ตรงข้ามกับ Senado Sq. ภายในก็สวยน่ารักดี รู้สึกว่าคนโปรตุเกสจะเก่งพวกเรื่องลายกระเบื้องมากพอดูเลยทีเดียว


จากนั้นเราก็เดินกลับ Senado Sq. โฉบ St. Dominic's Church และ Cathedral ซื้อทาร์ตไข่กับไอติมมากินเล่น ก่อนจะเดินไปดู Ruin of St. Paul สัญลักษณ์ของมาเก๊า เป็นซา่กประตูของโบสถ์ที่สร้างเมื่อราวปี 1600 แต่พอดีถูกไฟไหม้ทำลายไปในปี 1835 เหลือแต่ซุ้มประตูด้านหน้าไว้


ซ้าย โบสถ์เซนต์ดอมินิค ขวา ทางเดิน ปูพื้นน่ารักเชียว

ทาร์ตไข่ และ Ruin of St. Paul

---- 12 Hello HK! ----

เนื่องจากว่าขี้เกียจหาร้านอาหารทานที่มาเก๊ากัน ทุกคนเลยตัดสินใจไปตายเอาดาบหน้าที่ฮ่องกง ^o^ หลังจากกลับไปถึงโรงแรม ก็นั่งรอ Shuttle Bus ไปส่งที่ท่าเรือเฟอร์รี่ ตีตั๋ว TurboJet นั่งเรือไปฝั่ง Hong Kong เรือที่นี่นั่งสบายใช้ได้เลย (กว้างกว่า AirAsia อีกมั้ง) หลับๆตื่นๆชั่วโมงนึงก็ถึงฮ่องกงแล้ว

ท่าเรือที่ฮ่องกงนั้นอยู่ที่ตึก Shun Tak หลังจากงงไปงงมาก็หาทางลงมาที่สถานี Sheung Wan จนได้ (มีทางเชื่อมอยู่ชั้นใต้ดิน) แล้วก็จัดแจงซื้อตั๋ว Octopus กันคนละใบ (เป็นตั๋ว Smart Card ที่ใช้ได้ทั้งรถใต้ดิน รถเมล์ เรือข้ามฟาก The Peak จ่ายตังค์ที่ร้านค้าต่างๆเช่น 7-Eleven, Bossini) เพราะเราตั้งใจจะเดินทางด้วย MTR (รถใต้ดิน) เป็นหลักอยู่แล้ว ซึ่งการใช้ตั๋ว Octopus จะได้ราคาประหยัดกว่า (รวมไปถึงการขึ้น The Peak ด้วย)

สถานีรถใต้ดินที่ฝั่งฮ่องกงนั้นน่าเบื่อมาก เพราะต้องลงลึกหลายชั้น (ชั้นละชานชาลา) แถมบันไดเลื่อนยังไม่สลับกันอีก ลงมาแล้วก็ต้องเดินย้อนไปอีกฝั่ง ซึ่งต่างจากฝั่งเกาลูนที่จะมีลักษณะคล้ายๆบ้านเรา (แต่ก็ยังเดินไกลกว่าอยู่ดี) อุโมงค์ที่นี่สไตล์เหมือนที่ลอนดอนมากๆ เพียงแต่ว่าใหม่กว่า ใหญ่กว่า รถติดแอร์ และมีป้ายไฟบอกสถานี คำประกาศที่นี่ใช้เทปเหมือนรถใต้ดินกรุงเทพ แต่ไม่เต็มยศเท่า

London Underground : " Mind the Gap " (แถมเป็นเสียงผู้ชายฟังดูดุๆ ห้วนๆอีก บางสายคนขับพูดเอง)
Hong Kong MTR : "Please Mind the Gap "
Bangkok MRT : "Please Mind the Gap Between Train and Platform"

หลังจากนั่งมา 5 สถานีก็ถึงสถานี Tin Hau โผล่้ขึ้นมา (ทุลักทุเลเล้กน้อยเพราะช่วงปลายไม่มีบันไดเลื่อน) ก็เห็นโรงแรมอยู่ฝั่งตรงข้ามเลย สะดวกจริงๆ

L' Hotel Causeway Bay & Tin Hau Station Entrance

โรงแรม L' Hotel นี้ได้เห็นรีวิวมาจากห้อง BP ก็เลยลองจองดู ข้อดีคือเดินทางสะดวกมาก ห้องพักใหม่ มีอินเตอร์เนตให้ใช้ฟรีสองเครื่องที่ลอบบี้ (ปริ้นท์ฟรีด้วย) ส่วนบริการกับขนาดห้องนั้นก็เฉยๆ (ซึ่งโรงแรมส่วนมากในฮ่องกงห้องจะเล็กอยู่แล้ว)

---- 13 First Meal ----
หลังจากเช็คอินเรียบร้อยแล้ว ก็ได้เวลาหาของกินกันด้วยความหิวโซ พอดีได้ Guidebook ของกินจากการท่องเที่ยวฮ่องกงมา เห็นมีร้านหม้อดิน New Chui Wah เป็นร้านแนะนำ อยู่ถนน Tang Lung ละแวก Causeway Bay ด้วย (อยู่ห่างจากโรงแรมสถานีเดียว) ก็เลยไปซะหน่อย ปรากฏว่า พระเจ้าช่วย สถานีCauseway Bay นี่กว่าจะไปถึง Exit ต้องเดินขึ้นทางลาดไปซะไกลเลยกว่าจะถึง โผล่ออกมาแล้วก็จัดการกางแผนที่เดินกัน ในที่สุดก็มาถึงร้านจนได้!




ตั้งแต่เห็นหน้าร้านก็เกิดลางสังหรณ์แล้วว่าร้านนี้ไม่น่าจะพูดภาษาอังกฤษได้ แล้วก็จริงๆด้วย เพราะตั้งแต่หน้าร้านก็เป็นภาษาจีนล้วนๆ เมนูข้า่งในก็จีนล้วนๆ แล้วจะทำยังไงเนี่ยกรู แย่ไปกว่านั้นคือ หลังจากชี้สะเปะสะปะแล้วก็ได้ข่าวว่า ข้าวอบหม้อดินยังไม่มีจนกระทั่งห้าโมงเย็น -_- เศร้าอีก

อย่างไรก็ตามงานนี้ได้หยี่อี๊ช่วยกู้ชาติ ต้องขอบคุณโต๊ะรอบข้างที่สั่งอาหารกันหลากหลาย จนการใช้กลยุทธ์ ' me too menu ' ได้อาหารอร่อยมาหลายจาน :P

จะว่าไปร้านนี้ก็คงคล้ายๆอาหารตามสั่งบ้านเรา มีกับข้าวหลายอย่าง เช่น ไก่ทอดกระเทียม บล็อคโคลี่ผัด หม้อดินเนื้อสไลด์+สับปะรดและวุ้นเส้น ซึ่งขอบอกเลยว่าอร่อยทั้งน้าน ร้านนี้ผ่านฉลุย! ถ้าใครพูดจีนเป้นน่าจะลองไปกินดูนะ เพราะสังเกตดูตอนนั้นที่ไปกินราวๆ 3-4 โมงเย็น คนก็ยังแน่นร้านตลอด (ถ้าอยากรู้วิธีไปร้านนี้ให้คลิก View Larger Map ที่แผนที่ข้างล่างแล้วหา New Chui Wah Rest. เอา)

ตอนหน้าจะมาต่อ The Peak - Mong Kok - Ngong Ping Skyrail - วัดโป้หลิน ครับพ้ม!

ไฟล์แผนที่ทางการย่าน Causeway Bay
(ถ้าจะไปควรจะปริ้นท์เอาไว้ มีระบุตำแหน่งทางออกรถใต้ดิน)


View Larger Map

0 Comments
Post a Comment

{J}aroz' Blog

Location : Bangkok, Thailand, Planet Earth

{J} Trip

 

  • {J} Life

{J} Links

  • =A^o^N= วิดวะแบกเลนส์ถือกล้องไปถ่ายรูป
  • Bliss* live / storythai พลอยพีพี ผู้มีสองมาตรฐาน (บล็อก)
  • Empty Space บล็อกลิงเล่นเบส
  • LittleJournal บล็อกสุดฮาของสาวภาคคอม ผู้(เคย)ไม่รู้จัก silicon valley
  • Ma-mEw"z เหมี่ยว เพื่อนเวิร์ค
  • NuttyGM มันหายไปไหนแล้ววะตอนนี้
  • Nisa บล็อกอินเตอร์ บาย โบ
  • Nsom บล็อกป้าหมอ ที่หริราด
  • TeddyBank แบงค์กี้ เดอะหมีวิคตอเรีย chu chu
  • [Z]kyha[x] ไอ้ตี๋ ผู้เล่นเกมส์พิซซ่าเป็นนิจ

{J} Archives

คลังบล็อกเก่า(month.year)



Search

Web Jaroz' Blog

Creative Commons License
This work is licensed under a Creative Commons Attribution-Noncommercial-Share Alike 3.0 License. XML

Powered by Blogger

make money online blogger templates



© 2007 Jaroz' blog |Original Template by Gecko and fly
Revolution2 : Path to the future! Version since 29 Aug 2007
First Published on 24 Oct 2004