กระทงแฟชั่น

หวัดดีครับเพื่อนๆ

เหมือนว่าไดกูจะอัพเดทเป็นรายสัปดาห์... ยังไงก็จะพยายามอัพให้ได้ อย่างน้อยหนึ่งครังต่อสัปดาห์นะ

ไฮไลต์ของอาทิตย์ที่ผ่านมามีสองอย่างครั่บ
1. กระทง
2. งานประจำปี


สำหรับงานกระทงของวิดวะจุลา ที่ทำมาเกือบสองเดือน (สำหรับผู้บุกเบิก เช่น พี่แดน พี่กี้) ก็สำเร็จไปด้วยดีครับ มาบรรยายคร่าวๆว่ากระทง - พาเหรดของวิดวะจุลาเปนยังไง

กระทง (ขอโทษที่ไม่รู้ขนาด) แบกกันยี่สิบกว่าคน คือ หนักแบตโคตตรๆ ติดตั้งระบบไฟ ส่วนปราสาทแดง (ตึกที่เห็นตรงกลางกระทง) หมุนได้นะเฟ้ย ตอนพาเหรดก็เปนไปด้วยดี แต่ตอนลอยเสียดายที่ขนไปขนมาแล้วเคลื่อนไปหน่อยเลยหมุนไมได้



ภาพไปหาๆมาจากบอร์ดคณะ ยังไม่ค่อยมีคนอัพโหลดกันอะ
(อ้อ ย้ำอีกทีว่าไอ้ที่แบกยี่สิบกว่าคน มันลอยได้จริงๆนะเออ)

เสลี่ยง






งานนี้ถือว่าเปนผลงานชิ้นเอก ที่พี่กี้ พี่แดน มีส่วนรับผิดชอบเต็มๆ เปนหนึ่งในเฮ้ดในงานส่วนนี้ มันมีสองเสลี่ยง คือเสลี่ยงเทอดพระเกียรตื กับเสลี่ยงนางนพ ขอโฟกัสที่เสลี่ยงนางนพแล้วกัน เพราะ
เป็นงานที่กูมีส่วนร่วมที่สุดแล้ว ไปแจมๆ ช่วยประมาณสองสับดา อย่างน้อยก็ภูมิใจเฟ้ยว่ากูก็ช่วยทำ(พอสมควร) ล่ะฟ้า

เสียดายที่ยังหารูปไม่ได้ ไว้มีรูปจะลงนะ

เสลี่ยงนางนพคณะอื่นจะเน้นนางนพครับ แบกกันสี่คน แต่เสลี่ยงวิดวะเหรอ หึหึ
ใหญ่ 7x7เมตร (เป็นแคตวอลค์เดินแบบได้เลย) แบกกันหกสิบคน!!!!!!!!!

ว้า ไม่รู้จะพูดยังไง ไว้เดี๋ยวรอดูรูปแล้วกัน อลังมากๆๆๆๆๆๆๆ

น่าเสียดายอย่าง ที่วันลอยกระทง มัวแต่ไปแบกเสลี่ยง แถมแบกใต้เสลี่ยงด้วย เลยไม่ได้ดูงานอะไรมากเท่าไหร่ ก็ได้เดินออกมาดูงานตอนก่อนคณะจะรวม กับตอนรอรับแหวนรุ่น (ซึ่งหลวมโครกสัดๆ)

ไว้ปีหน้าจะเดินให้จุใจ...

เปลี่ยนมาพูดถึงงานประจำปีโรงเรียนด้วยดีกว่า

หลายคนที่ไปงานประจำปีก็คงจะเห็นเหมือนๆกัน กับความ "เปลี๊ยนไป๋" ของงานประจำปีโรงเรียนเรา ก็ไม่เขียนมากแล้วกัน เปนว่า งานปีนี้...
1. อากาศดี
2. คนน้อย (รุ่นพี่ - สิดเก่า... สงสัยแฮงค์กระทง)
3. แฟชั่นสุดฤทธิ์ (ทั้งสุดตีนและสุดยอด)

ขอขยายความข้อสามหน่อย คือ งานโรงเรียนปีนี้รับกระแสกรุงเทพเมืองแฟชั่นจริงๆ แฟชั่นผู้หญิงก็เหมือนในงานพรอมเลยล่ะ หลายๆคน ส่วนผู้ชายรู้สึกว่าฮิปฮอปจะแรงนะ แปลกๆก็เยอะ เช่น
- ผู้หญิงใส่เสื้อแขนเฟอร์ ผู้ชายใส่หมวกไหมพรม ไม่ก็เสื้อแขนยาวตัวหนาๆ (ไม่ร้อนเหรอฟะ)
- กระแสไทเทแรงจริงๆครับ บางคนก็เริ่ม ซัปโหยว และเดินหย่มๆกันเล้ย
- ส่วนผู้หญิงก็กระแส knowledge is everywhere ก็ มาแรง (สงสัยมาจากโคนายูบีซี ที่หัวเด็กติดจานดาวเทียมอะ) ต้องมีที่คาดผมที่มีลูกปิงปอง (หรือไรก็เหอะ) โผล่มาเปนสาอากาด (ก็น่ารักดีนะ ... แล้วแต่คนน่ะ)

ส่วนที่ไม่พูดถึงคงไม่ได้ ก็คืองานแฟชั่นโชว ที่ทำให้ทุกคนตะลึงตึงตึงกันมาแล้ว คนละฟีลกับหลีดอย่างสิ้นเชิง ตาค้างกันหมด เปนซุปเปอร์ไฮไลต์ไปโดยปริยาย

อา

แค่นี้แล้วกัน เขียนเยอะสัด เดี๋ยวจะไม่อ่านกัน




(ภาพงานโรงเรียนจากเนกับพีท ภาพงานกระทงจากบอร์ดวิดวะ)

0 Comments
Post a Comment

สัปดาห์รวมมิตร

ขออภัยคับที่ไม่ได้อัพเดทนานมั่ก (ขี้เกียจหนักหนา)

สับดาที่ผ่านมาเรียกได้ว่ายำใหญ่กิจกรรมก็ได้
ตั้งแต่ช่วยทำเสลี่ยง (งานกระทงของคณะ)
กระทั่งการเข้าไปนั่งในหอประชุมดูคอนเสิร์ต ละคร ทอลคโชวต่างๆ (เล่นเอาเพื่อนในกรุ๊ปบางคนถามมึงเปนไรเนี่ยตระเวนดูอะไรไปหมด... แต่ยังไงก็คงไม่เท่าพี่พีทมั้ง)

สำหรับงานเสลี่ยง ก็ได้เข้าไปช่วยๆแจม ร่วมด้วยช่วยกัน ส่วนมากจะเสนอหน้าเข้าไปแล้วก็ดูเฉยๆ 55 นับถือพี่แดนพี่กี้มากครับ เป็นหนึ่งในบรรดาตัวตั้งตัวตีของเสลี่ยง... เข้าไปทำงานคราวนี้ก็ได้โอกาสจำชื่อเพื่อนใหม่ๆอีกแล้ว (ซึ่งก็ลืมไปเกือบหมดอีกแล้ว)

วันพุธได้ไปดู ม่ายแฝเล้ดี่ (my fair lady - ไม่รู้ภาษาไทยสะกดวรรณยุกต์แบบนี้รึเปล่า แต่อารมณ์คือเขียนเพี้ยนๆแบบนี้แหละ) ที่พี่ปั้นพี่โอพี่พีทแสดง พี่โอรับบทเป็นตัวประกอบ ตอนเป็นอาบังขายถั่วหน้าให้อารมณ์พี่มัดสะถาสุดๆ อยู่บนเวทีคล้ายๆว่าจะสูงขึ้นจนทั้งแดนทั้งออฟหันหน้ามาปรึกษากับกูว่าแม่งสูงขึ้นรึเปล่าเนี่ย แต่สุดท้ายพอลงจากเวทีก็พบว่าความสูงเท่าเดิม

พี่ปั้นรับบทเป็นนายพล อะไรจะล็อคเสป็กขนาดนั้น เป็นตัวละครหลักที่บทไม่สำคัญ (เอ๊ะยังไงกัน) อย่างไรก็ตาม สิ่งที่จำได้ขึ้นใจที่สุดก็คงหนีไม่พ้นประโยคสุดท้ายของนายพล (ไม่ใช่ตายนะ แต่เป็นคำพูดสุดท้าย ฝากข้อคิดหล่อๆ ไว้ให้กับพระเอก) ที่กล่าวไว้อย่างหรูสุดๆ ว่า "คนเราน่ะ สามารถที่จะหลอกใจตัวเอง.... ไม่ได้"

... (คือประโยคจริงๆต้องพูดว่า คนเราไม่สามารถที่จะหลอกใจตัวเองได้)

ส่วนพี่พีทก็รับบทคาแรคเตอร์คล้ายๆหางแถวเหมือนเดิมคับ เสียงแหลมๆ พูดมากๆเหมือนเดิม

วันพฤหัส ไปเรียนยูนิเวิร์ส กวดวิชานรกกลับมาอีกแล้ว (เผื่อบางคนยังไม่ทราบ เด็กวิดวะจุลาเกือบ 50% เรียนพิเสดฟิสิกส์ครับ สามชั่วโมงต่อวัน สองวันต่อสัปดาห์ ห้าโมงถึงสองทุ่ม T_T)


วันศุกร์ หลังจากช่วยงานเสลี่ยงก็มุดดินไปศูนย์วัฒนธรรม ไปดูคอนเสิดป้ากมลา music is my life ได้บัตรฟรี ก็อารมณ์ก็คล้ายๆกับครั้งที่แล้วที่ไปดูคับ สำหรับคนที่ไม่เคยดู ก็ เอ่อ มันเป็นร้องเพลง สไตล์บรอดเวนิดๆ เปนแจ๊ส ลาติน สวิง เพราะว่าใช้ออเครสต้า ฟูลแบนด์ เหมือนกับคอนเสิด CU BAND Sound n' Track อะ แต่มีเครื่องสายด้วย ป้าแกก็จะร้อง สลับกับลูกหลานเพื่อนฝูงมาร้อง บางเพลงก็มีพวกแดนเซอร์มาเต้น แต่ไม่ใช่เต้นเหยงๆแบบป๊อปคอนเสิดอะ เปนคล้ายๆบัลเล่ต์นิดๆ ป้ากมลาแกเปรี้ยวมากคับ ร้องแรงไม่ตก เต้นดึ๋งๆยึกยักคอเหมือนเดิม ร้อง I will survive ด้วย ส่วนพี่น้อยก็มีร้อง Don't know why พี่บอยด์+ป้า ร้อง "ใคร" version swing ส่วนพี่นภก็แอบสงสารนิดๆตรงที่เพลงอย่าง "เผลอ" ของพี่แกกลุ่มผู้ชมส่วนใหญ่ไม่ค่อยรู้จัก ปฏิกิริยาตอบรับเลยนิ่งๆไปหน่อย

ส่วนเมื่อวาน ทอลคโชวพี่ตู้ อันนี้ไม่รู้จะเม้นต์ยังไง เอาว่าพี่แกปากจัดกัดเจ็บสไตล์เขาแหละ

ส่วนวันนี้ ฤกษ์งามยามดี อากาศเย็นแบบนี้ต้องไป JJ คับ แล้วก็ ไปตัดผมมาและ 5555 เปนยังไงก็มาดูเองแล้วกัน

0 Comments
Post a Comment

Chillin' @ 35 degrees

ผ่านไปแล้วกับสับดาห์แปลกๆ ในชีวิต

ผ่านไปแล้วกับสองเพลงจาก "จิบเดียวก็ซึ้งแบนด์"
ถึงจะไม่ผ่านเข้ารอบต่อไป แต่ก็ไม่รู้สึกไรแฮะ
แปกๆนะ รู้สึกชิลๆเหมือนเพลงที่เล่นวันนี้ ได้ก็เฉยๆ ไม่ได้ก็เฉยๆ
...ตอบไม่ได้... เหมือนคำถามที่ว่า เลือกให้ดูดน_จีฉ่อย กับเลียตู_XXX จะเอาอะไร (ใครที่ได้ไปกินข้าวเย็นมาด้วยคงรู้ว่าพูดถึงอะไรอยู่ 5555)

อย่างน้อยก็ได้ประสบการณ์ ได้คอมเม้นต์กลับมาปรับปรุง (เค้าบอกว่าให้ฟังคนอื่นเยอะกว่านี้ เล่นล้ำจังหวะเยอะ.. ก็จริงแฮะ เล่นอิมโพรไวส์มั่วๆนี่หน่ากู พลาดก็เยอะ เหอเหอ)

และที่ขาดไม่ได้... ได้เห็นบรรดาหน้าม้าทั้งหลาย วันนี้มากันอุ่นหนาฝาคั่งกว่าที่คิดไว้อีกแฮะ เยอะมั่กๆ "โผล่มาก็ซึ้งแล้ว" ดีใจนะเฟ้ย เพื่อนกูนี่ดีจริงๆ (แอบสงสารวงที่เล่นต่อเหมือนกัน)

ยังไงก็ขอบคุณนะค้าบ (ไม่เสียแรง PR)

เฮ่อออ

ตอนนี้ อารมมันลอยๆแฮะ... chill จริงๆ


อาจเพราะเพลง CAFA ที่ลอยผ่านหูอยู่ อาจเพราะความเหนื่อยและง่วงจนหนังตาจะปิดอยู่แล้ว อาจเพราะอากาศที่ร้อนชิบหายไม่สมกับหน้าหนาวเล้ย อาจเพราะเรื่องวงที่วุ่นๆมาในช่วงสองสามวันนี้จบแล้ว อาจเพราะประสบการณ์บนเวทีวันนี้ อาจเพราะแดกข้าวที่สามย่าน หรือการแหกปากร้องเกะ

คืนนี้...มันมีเรื่องให้กลับมาคิดเยอะนะ
เรื่องหลายเรื่องที่มีอยู่ในหัวในช่วงที่ผ่านมา ก็ไหลออกไป
แต่ก็ยังมีหลายเรื่อง ยังค้างคาในใจ
และก็มีหลายเรื่อง ที่เพิ่มเข้ามา
เรื่องโน้น เรื่องนี้ เรื่องนั้น...

กวนใจนิดๆ

แต่ตอนนี้ไม่อยากคิด

ช่างมันดีกว่า




ก็อย่างที่บอก ตอนนี้มันลอยๆ
(เขียนไดยังลอยเลย)



ลอยแบบสับสนนิดๆ


ลอยแบบมึนๆ เบลอๆ (อาจเพราะมีบางเรื่องถ่วงหัวไว้อยู่?)


แต่


ก็ลอย แบบมีความสุขนิดๆว่ะ

ยิ้มที่มุมปากได้....









แบบนี้...ก็ดีเหมือนกันแฮะ :)

0 Comments
Post a Comment

Concert

พรุ่งนี้มาเชียหน่อยนะเว้ย "จิบเดียวก็ซึ้งแบนด์" @ CU Music Award#8 หอประชุมวิดวะ 17.00 เล่นวงแรกเลย ขอบคุณค้าบ

สองวันนี้วุ่นอยู่สองอย่างคับ
- โหลดเพลง iPod ที่บรรดาเพื่อนๆทั้งหลายฝากเครื่องมาให้ลง นี่ก็ 4 เครื่องแล้ว กลายเป็นเจ้าพ่อ iPod ไปโดยปริยาย เหอๆ
- เตรียมตัวสำหรับขึ้นเวทีพรุ่งนี้ ย้ำอีกที มาเปนหน้าม้าด้วยนะ 555

ทำไมช่วงนี้งานต่างๆมันประดังมาพร้อมกันเลยวะ ตั้งแต่ Dance Expo, CU Music Award, ดนตรีในสวน, งานวัดนิติ สับดาหน้าก็มี Undertab5, งานวัดรัดสาด, งานgift on the beach, talkshow พี่ตู้ ยังไม่รวมงานกระทงในคณะอีก โอ้วววว เฮฮาๆ

ยังไม่ได้อ่านหนังสือเลย ทำไงดีๆ เพื่อนๆกรูฟิตกันหมดแล้ววว

0 Comments
Post a Comment

Ch 04 : TAXI!








อัพเดทกันอีกแล้ว
- อัพเดทไดอารี่
- อัพเดทเปลี่ยนมาใช้เนตไฮสปีด (ชีวิตยกระดับขึ้นจริงๆ)
- อัพเดท Windows XP SP2 / iTunes4.7
- อัพเดท ติด Sustain Pedal Switch หลังจากคิดจะซื้อตั้งนาน (ใช้กับ Keyboard ดนตรี ครับ)


-1-


เคยเรียกแทกซี่กันบ้างไหมครับ
คิดว่าทุกคนคงเคยรูจักแทกซี่กันดี แล้วก็เคยนั่งกันทุกคน
เมื่อวานก็เพิ่งจะนั่งแทกซี่... แต่อยู่ดีๆก็นึกได้ว่า

แทกซี่บ้านเรา ประหลาดกว่าที่อื่นเค้าใช้ได้เลยแหละ

เคยเห็นภาพกรุงเทพผ่านทางรายการทีวีต่างประเทศบ้างไม๊ครับ?
สิ่งที่พอจะยืนยันแก่สายตาเราได้ว่า ภาพที่เห็นอยู่ต้องเป็นที่กรุงเทพแน่ๆ ถ้าไม่ถึงสถานที่ที่เราจำได้นั้น ก็น่าจะมี
1. ตึกแถวโทรมๆ
2. สายไฟระเกะระกะ
3. รถติด

ซึ่งจะว่าไป รถติดมันก็มีอยู่เกือบทุกเมืองนั่นแหละ แต่สิ่งหนึ่งที่พอจะเป็นเอกลักษณ์ได้เป็นอย่างดี ก็คือ
แทกซี่กรุงเทพ

อะไรที่ทำให้แทกซี่กรุงเทพ ไม่เหมือนแทกซี่ที่อื่น
1. วิ่งอยู่เต็มถนน... ว่ากันว่าบนถนนในกรุงเทพ รถเก๋ง 10 คันจะเป็นแทกซี่ซะ 1 คัน
2. แทกซี่กรุงเทพ ไม่ได้มีชื่อว่าคือ TAXI แต่เป็น TAXI METER

มีใครคิดสงสัยกันบ้างรึเปล่า ว่าถ้าเราเป็นฝรั่งแล้วมากรุงเทพ จะงงมั้ยที่แทกซี่ที่วิ่งอยู่ทั่วกรุง ติดป้ายว่า TAXI METER!?? พอดีว่าไม่ใช่เจ้าของภาษา เลยไม่รู้ว่าคนอื่นเค้าคิดกันยังไง แต่ความรู้สึกคือมันเป็นคำที่แปลกมากเลยนะ

หลายคนคงจำได้ว่าตอนเด็กๆ แทกซี่ที่เรานั่งนั้น ไม่มีมิเตอร์ เวลาจะไปไหนก็ต้องต่อราคากันมันส์สุดๆ จนกระทั่งสมัย เอ่อ... สักสมัยแหละ ที่มีการทยอยเปลี่ยนมาใช้เป็นระบบมิเตอร์ แทกซี่คันไหนมีมิเตอร์ก็จะขึ้นป้ายว่า TAXI METER เพื่อแยกความแตกต่างระหว่าง TAXI ธรรมดา กับ TAXI ที่ติดมิเตอร์

ก็เลยคงเป็นธรรมเนียมปฏิบัติสืบกันมา ตอนนี้ถึงแม้ว่าแทกซี่ทุกคันจะติดมิเตอร์หมดแล้ว ก็ยังต้องติดป้าย TAXI METER ทั้งๆที่ไม่เคยเห็นใครเรียก "แทกซี่ มิเตอร์" เลยสักครั้ง

"เฮ้ยวันนี้มึงกลับไงวะ"
"อ๋อเดี๋ยวเรียกแทกซี่มิเตอร์เอา"

...

ช่วงนี้เห็นมีข่าวคราวมีการเรียกร้องว่าจะให้ติดแผ่นกั้นระหว่างคนขับกับผู้โดยสาร อยากรู้จังว่าพอมีการติดแล้ว จะเปลี่ยนชื่อแทกซี่อีกมั้ย

TAXI FENCE METER????

-2-

เรื่องน่ารู้
1. ใครที่บอกว่าไม่มีรถแทกซี่ฮอนด้า ขอบอกว่าไม่จริง ปีที่แล้วตอนขากลับจากแฟตเฟสต์ เป็นครั้งแรกและครั้งเดียวที่ได้มีโอกาสนั่งแทกซี่ ฮอนด้า ซีวิค (ส่วนบุคคล - เขียว/เหลือง)
ปล. นิสัยแย่ เก็บเงินโก่งราคา ตอนนั้นออฟติดรถมาด้วยแล้วจะไปลงต่อ ได้ข่าวว่าโดนเรียกค่าโดยสารเพิ่ม
2. สิถิติที่บอกว่ารถเก๋งในกรุงเทพ 10 คัน เป็นแทกซี่ 1 คัน อันนี้กูมั่วขึ้นมาเอง แต่ก็น่าจะใกล้เคียง??

0 Comments
Post a Comment

{J}aroz' Blog

Location : Bangkok, Thailand, Planet Earth

{J} Trip

 

  • {J} Life

{J} Links

  • =A^o^N= วิดวะแบกเลนส์ถือกล้องไปถ่ายรูป
  • Bliss* live / storythai พลอยพีพี ผู้มีสองมาตรฐาน (บล็อก)
  • Empty Space บล็อกลิงเล่นเบส
  • LittleJournal บล็อกสุดฮาของสาวภาคคอม ผู้(เคย)ไม่รู้จัก silicon valley
  • Ma-mEw"z เหมี่ยว เพื่อนเวิร์ค
  • NuttyGM มันหายไปไหนแล้ววะตอนนี้
  • Nisa บล็อกอินเตอร์ บาย โบ
  • Nsom บล็อกป้าหมอ ที่หริราด
  • TeddyBank แบงค์กี้ เดอะหมีวิคตอเรีย chu chu
  • [Z]kyha[x] ไอ้ตี๋ ผู้เล่นเกมส์พิซซ่าเป็นนิจ

{J} Archives

คลังบล็อกเก่า(month.year)



Search

Web Jaroz' Blog

Creative Commons License
This work is licensed under a Creative Commons Attribution-Noncommercial-Share Alike 3.0 License. XML

Powered by Blogger

make money online blogger templates



© 2007 Jaroz' blog |Original Template by Gecko and fly
Revolution2 : Path to the future! Version since 29 Aug 2007
First Published on 24 Oct 2004