UK TRIP2005 : สุดยอดเหตุการณ์ในปี
JAROZ' BLOG LIVE IN LONDON
ชีวิตนี้ไม่ได้มีเพียงแค่ด้านเดียว มีโชคร้ายก็มีโชคดี เมื่ออยู่ีดีๆระหว่างปิดเทอมแม่ก็บอกว่าให้ตามน้าไปเที่ยวอังกฤษ โดยให้ทำหน้าที่นำไปเที่ยวที่ต่างๆ (ทั้งที่ไม่เคยไป... ฮา) และแล้วทริปยุโรปครั้งแรกในชีวิตก็เริ่มขึ้น ณ เดือนเมษา โดยมีกำหนดการเที่ยวประมาณ 2 อาทิตย์
ยิ่งกว่าถูกหวยรางวัลที่หนึ่ง เพราะการเป็น'ไกด์'พาไปเที่ยวในครั้งนี้ ย่อมหมายถึงค่าเที่ยว ค่าอาหาร ค่าที่พักส่วนใหญ่ ได้รับการสนับสนุนจากน้าทั้งนั้น (-/\-) ขอบคุณหยี่อี๊มา ณ ที่นี่ด้วยครับ ถ้ามาเที่ยวเอง คงไม่มีทางได้เที่ยว แทบจะทุก attractions ในลอนดอน เพราะลำพังแค่ค่าบัตรผ่านประตูแต่ละที่ก็แพงๆทั้งนั้น
สัญลักษณ์ลอนดอนที่คนไทยรู้จักกันดี Big Ben, Tower Bridge และ Harrods -_-
Bath
นอกจากนี้ เนื่องจากที่พักก็คือบ้านเช่าของP' Golf, Nop, Sung & Ning ที่เรียนอยู่ที่ัอังกิด ทำให้ทริปนี้ต้องถือว่า 'เพียบพร้อมทุกอย่าง' facility ครบครัน ตั้งแต่เคเบิลทีวี เนตไฮสปีด (ที่ทำให้สามารถอัพบล็อกได้วันเว้นวัน) มือถือ ครัว (และของกินมากมาย ด้วยฝีมือสุดยอดจากทั้งหยี่อี๊ เจ้ซัง + นิ้ง อร่อยและประหยัดค่าข้าวไปได้เป็นหมื่น) แถมบ้านก็อยู่โซน 1 ใกล้ Underground 'Earl's Court' เพียงเดินสามนาที ทำให้การเดินทาง 'ง่ายเหมือนนับ 1-2-3'
My home (Basement fl หลังซ้ายสุด)
ทริปนี้นอกจากพี่ๆแล้ว ยังเจอกับเพื่อนยุ้ยทั้งหลายที่ไป work and travel ที่นั่น ตั้งแต่ พี่ฮุย เป้ บิล ออย ผึ้ง นุช ที่ทำให้ทริปเที่ยวครั้งนี้ ได้รสชาติไปอีกแบบ :D
นอกจากจะได้เพื่อนใหม่... ยังได้เจอกับ my 3 little cutie angles! สามสาวลูกพี่น้อยสุดน่าร้ากกกกกกกกสุดชีวิต (ใครที่เห็นรูปแล้วคงเห็นด้วยเป็นอย่างยิ่ง) คิดถึงจังเลยยยย chu chu!
Anaeve, Coalee & Natasha
แล้วอยู่ดีๆก็ได้ข่าวดีมาอีก... ทริปที่ตอนแรกนึกว่าจะไปแค่สองสัปดาห์ ขยับขยายขึ้นเรื่อยๆ เพราหยี่เตี๋ยมาทำ business leisure trip ที่นี่ ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของการได้เห็นมุมมองชีวิตในรูปแบบใหม่
ตั้งแต่อาหารค่ำมื้่อสุดหรูทั้งหลายจากเจ็กเสี่ยวหลิน (เขียนผิดป่าวหว่า -_-) เพื่อนหยี่เตี๋ย ไม่คิดมาก่อนว่าจะได้เข้าร้านอาหารสุดฮิป(ขอบอกว่าโคตรฮิป)... หรือร้านอาหารระดับต้องจองล่วงหน้าใน London ... ได้กินติ่มซำ fusion ที่อร่อยที่สุดเท่าที่เคยกินมาในชีิวิต (จิงๆนะ :P) แถมยังได้จิบ แชมเปญ เปนครั้งแรกซะล่วย โฮ่ๆ
เหมือนถูกหวยซ้ำอีกหลายรอบ เมื่อทริปจากลอนดอน ขยับขยายไปที่ SCOTLAND ไปอยู่ที่ Rufflet Hotel St' Andrews เมืองที่ขึ้นชื่อเรื่องสนามกอล์ฟ และเปนที่ตั้งของมหาลัยที่เจ้าฟ้าชายชาร์ลเรียนอยู่ ... สำหรับ Rufflets Hotel นั้นถือเปน SMALL LUXURIOUS HOTEL แรกที่ได้มีโอกาสเข้าพัก ซึ่งก็สมแล้วอะ เพราะโรงแรมน่ารักโคตรๆ เปน Country House พร้อมสวนสวยๆ (มีสวนผักด้วย) บรรยากาศดีโคตรๆ ธรรมชาติมากๆ สงบ ไม่วุ่นวาย อากาศก็โคตรจะดี ค่าครองชีพก็ถูกกว่า ผู้คนก็nice ทุกอย่างดีไปหมด โคตรชอบ Scotland เลย
Rufflets Hotel: St' Andrews (SLH)
พอว่างๆก็ได้เข้าไปที่ Edinburgh ซึ่งขอบอกว่า โคตรน่าอยู่และสวยสุดๆ เป็นเมืองที่ประทับใจในความสวยที่สุดในทริปนี้และ
และที่ถือเป็น GREATEST EXPERIENCE คือการได้พบและร่วมโต๊ะอาหารกับ Jeffrey Khoo, มหาเศรษฐีระดับแสนล้าน (พูดแล้วขนลุก) และผู้ร่วมทริปต่างๆ ... เปนนักการฑูตบ้าง... นายธนาคารบ้าง... โอววว สุดๆอะ
ร่วมโต๊ะอาหารกับคนใหญ่โตขนาดนี้ เป็นประสบการ์ณที่... สุดๆ แต่ก็ต้องยอมรับว่า 'อึดอัด' พอดู เวลาอยู่บนโต๊ะอาหารนอกจากต้องรักษามารยาทสุดชีวิต บางครั้งก็ต้องพยายามมีส่วนร่วม มีการคุยด้วย (มันก็เปนส่วนหนึ่งของมารยาทเหมือนกัน) ปัญหาก็คือ...ยังไม่รู้จะคุยอะไรด้วยอะดิ คิดสภาพว่าตัวเองอยู่บนโต๊ะอาหารที่มีผู้บริหารทังโต๊ะอะ จะไปคุยอะไรรู้เรื่องวะ ทั้งวัย ทั้งสังคม คนละเรื่องเร้ย แล้วนี่...แต่ละคนนี่ระดับบิ๊กบราเธอรกันทั้งนั้น -*- ก็ยังดี ที่มีพี่กอล์ฟ หรือยังมีลูกสาว Jack (ซึ่งโตแล้ว) ที่ยังพอมีเรื่องคุยได้ (คนหลังนี่ขอยกย่อง คือเวลาคุยกับเรานี่ก็เป็นเรื่องนึง พอคุยกับพ่อ คุยกับผู้ใหญ่คนอื่น นี่เหมือนพูดกันคนละภาษา (ที่พูดกับเราู) เลยแฮะ ความคิดความอ่าน...ความรู้ ประสบการณ์...)
ทั้งหมดนี้ทำให้ได้เรียนรู้ว่าสังคม'ธุรกิจ' เป็นอย่างไร เจอคนระดับนี้แล้ว ทำให้รู้เลยว่าการที่เรามี 'เพื่อน' ที่จริงใจต่อกันนั้นเป็นอะไรที่โคตรจะมีค่า เพราะต่อไป เวลาเจอคนมากมาย... เราไม่มีทางรู้เลยว่าภายใต้รอยยิ้มของคนคนนั้น แท้ที่จริงแล้วเค้าคิดอะไรกับเรา
ส่วนของแถมที่ได้... ก็คือมื้อสุดหรูเช่นเคย พร้อมไวน์ และวิสกี้ชั้นดีโคตรๆๆๆๆๆที่แพงระยิบ ซึ่งชาตินี้คงไม่มีปัญญาซื้อมากิน
ของแพง ค่อยๆจิบ 5555
(ปล ทายดิ๊ ขวดเีขียวกะขวดฟ้าคือไร)
(ไวน์? ... ผิดสนิท มันคือ still water กะ carbonated water พูดภาษาชาวบ้านก็คือ น้ำเปล่า และ โซดา นั่นเอง 5555...)
ปล. ที่นั่น still water ขวดจะดีไซน์แบบโคตรสวย เหนมาและหลายยี่ห้อและ สุดๆอะ อยากจะแบกกลับบ้านแต่ไม่มีปัญญา
จบการ Review Blog 2005 - เจอกันใหม่ปี 2006!
JAROZ' BLOG LIVE IN LONDON
ชีวิตนี้ไม่ได้มีเพียงแค่ด้านเดียว มีโชคร้ายก็มีโชคดี เมื่ออยู่ีดีๆระหว่างปิดเทอมแม่ก็บอกว่าให้ตามน้าไปเที่ยวอังกฤษ โดยให้ทำหน้าที่นำไปเที่ยวที่ต่างๆ (ทั้งที่ไม่เคยไป... ฮา) และแล้วทริปยุโรปครั้งแรกในชีวิตก็เริ่มขึ้น ณ เดือนเมษา โดยมีกำหนดการเที่ยวประมาณ 2 อาทิตย์
ยิ่งกว่าถูกหวยรางวัลที่หนึ่ง เพราะการเป็น'ไกด์'พาไปเที่ยวในครั้งนี้ ย่อมหมายถึงค่าเที่ยว ค่าอาหาร ค่าที่พักส่วนใหญ่ ได้รับการสนับสนุนจากน้าทั้งนั้น (-/\-) ขอบคุณหยี่อี๊มา ณ ที่นี่ด้วยครับ ถ้ามาเที่ยวเอง คงไม่มีทางได้เที่ยว แทบจะทุก attractions ในลอนดอน เพราะลำพังแค่ค่าบัตรผ่านประตูแต่ละที่ก็แพงๆทั้งนั้น
สัญลักษณ์ลอนดอนที่คนไทยรู้จักกันดี Big Ben, Tower Bridge และ Harrods -_-
Bath
นอกจากนี้ เนื่องจากที่พักก็คือบ้านเช่าของP' Golf, Nop, Sung & Ning ที่เรียนอยู่ที่ัอังกิด ทำให้ทริปนี้ต้องถือว่า 'เพียบพร้อมทุกอย่าง' facility ครบครัน ตั้งแต่เคเบิลทีวี เนตไฮสปีด (ที่ทำให้สามารถอัพบล็อกได้วันเว้นวัน) มือถือ ครัว (และของกินมากมาย ด้วยฝีมือสุดยอดจากทั้งหยี่อี๊ เจ้ซัง + นิ้ง อร่อยและประหยัดค่าข้าวไปได้เป็นหมื่น) แถมบ้านก็อยู่โซน 1 ใกล้ Underground 'Earl's Court' เพียงเดินสามนาที ทำให้การเดินทาง 'ง่ายเหมือนนับ 1-2-3'
My home (Basement fl หลังซ้ายสุด)
ทริปนี้นอกจากพี่ๆแล้ว ยังเจอกับเพื่อนยุ้ยทั้งหลายที่ไป work and travel ที่นั่น ตั้งแต่ พี่ฮุย เป้ บิล ออย ผึ้ง นุช ที่ทำให้ทริปเที่ยวครั้งนี้ ได้รสชาติไปอีกแบบ :D
นอกจากจะได้เพื่อนใหม่... ยังได้เจอกับ my 3 little cutie angles! สามสาวลูกพี่น้อยสุดน่าร้ากกกกกกกกสุดชีวิต (ใครที่เห็นรูปแล้วคงเห็นด้วยเป็นอย่างยิ่ง) คิดถึงจังเลยยยย chu chu!
Anaeve, Coalee & Natasha
แล้วอยู่ดีๆก็ได้ข่าวดีมาอีก... ทริปที่ตอนแรกนึกว่าจะไปแค่สองสัปดาห์ ขยับขยายขึ้นเรื่อยๆ เพราหยี่เตี๋ยมาทำ business leisure trip ที่นี่ ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของการได้เห็นมุมมองชีวิตในรูปแบบใหม่
ตั้งแต่อาหารค่ำมื้่อสุดหรูทั้งหลายจากเจ็กเสี่ยวหลิน (เขียนผิดป่าวหว่า -_-) เพื่อนหยี่เตี๋ย ไม่คิดมาก่อนว่าจะได้เข้าร้านอาหารสุดฮิป(ขอบอกว่าโคตรฮิป)... หรือร้านอาหารระดับต้องจองล่วงหน้าใน London ... ได้กินติ่มซำ fusion ที่อร่อยที่สุดเท่าที่เคยกินมาในชีิวิต (จิงๆนะ :P) แถมยังได้จิบ แชมเปญ เปนครั้งแรกซะล่วย โฮ่ๆ
เหมือนถูกหวยซ้ำอีกหลายรอบ เมื่อทริปจากลอนดอน ขยับขยายไปที่ SCOTLAND ไปอยู่ที่ Rufflet Hotel St' Andrews เมืองที่ขึ้นชื่อเรื่องสนามกอล์ฟ และเปนที่ตั้งของมหาลัยที่เจ้าฟ้าชายชาร์ลเรียนอยู่ ... สำหรับ Rufflets Hotel นั้นถือเปน SMALL LUXURIOUS HOTEL แรกที่ได้มีโอกาสเข้าพัก ซึ่งก็สมแล้วอะ เพราะโรงแรมน่ารักโคตรๆ เปน Country House พร้อมสวนสวยๆ (มีสวนผักด้วย) บรรยากาศดีโคตรๆ ธรรมชาติมากๆ สงบ ไม่วุ่นวาย อากาศก็โคตรจะดี ค่าครองชีพก็ถูกกว่า ผู้คนก็nice ทุกอย่างดีไปหมด โคตรชอบ Scotland เลย
Rufflets Hotel: St' Andrews (SLH)
วิวที่เห็นได้ทั่วไปใน Scotland, ทุ่งหญ้าเขียวสุดลูกหูลูกตาตัดกับท้องฟ้าสีฟ้าสด สวยมากๆ
พอว่างๆก็ได้เข้าไปที่ Edinburgh ซึ่งขอบอกว่า โคตรน่าอยู่และสวยสุดๆ เป็นเมืองที่ประทับใจในความสวยที่สุดในทริปนี้และ
Edinburgh สวยโคตรรร
และที่ถือเป็น GREATEST EXPERIENCE คือการได้พบและร่วมโต๊ะอาหารกับ Jeffrey Khoo, มหาเศรษฐีระดับแสนล้าน (พูดแล้วขนลุก) และผู้ร่วมทริปต่างๆ ... เปนนักการฑูตบ้าง... นายธนาคารบ้าง... โอววว สุดๆอะ
ร่วมโต๊ะอาหารกับคนใหญ่โตขนาดนี้ เป็นประสบการ์ณที่... สุดๆ แต่ก็ต้องยอมรับว่า 'อึดอัด' พอดู เวลาอยู่บนโต๊ะอาหารนอกจากต้องรักษามารยาทสุดชีวิต บางครั้งก็ต้องพยายามมีส่วนร่วม มีการคุยด้วย (มันก็เปนส่วนหนึ่งของมารยาทเหมือนกัน) ปัญหาก็คือ...ยังไม่รู้จะคุยอะไรด้วยอะดิ คิดสภาพว่าตัวเองอยู่บนโต๊ะอาหารที่มีผู้บริหารทังโต๊ะอะ จะไปคุยอะไรรู้เรื่องวะ ทั้งวัย ทั้งสังคม คนละเรื่องเร้ย แล้วนี่...แต่ละคนนี่ระดับบิ๊กบราเธอรกันทั้งนั้น -*- ก็ยังดี ที่มีพี่กอล์ฟ หรือยังมีลูกสาว Jack (ซึ่งโตแล้ว) ที่ยังพอมีเรื่องคุยได้ (คนหลังนี่ขอยกย่อง คือเวลาคุยกับเรานี่ก็เป็นเรื่องนึง พอคุยกับพ่อ คุยกับผู้ใหญ่คนอื่น นี่เหมือนพูดกันคนละภาษา (ที่พูดกับเราู) เลยแฮะ ความคิดความอ่าน...ความรู้ ประสบการณ์...)
ทั้งหมดนี้ทำให้ได้เรียนรู้ว่าสังคม'ธุรกิจ' เป็นอย่างไร เจอคนระดับนี้แล้ว ทำให้รู้เลยว่าการที่เรามี 'เพื่อน' ที่จริงใจต่อกันนั้นเป็นอะไรที่โคตรจะมีค่า เพราะต่อไป เวลาเจอคนมากมาย... เราไม่มีทางรู้เลยว่าภายใต้รอยยิ้มของคนคนนั้น แท้ที่จริงแล้วเค้าคิดอะไรกับเรา
ส่วนของแถมที่ได้... ก็คือมื้อสุดหรูเช่นเคย พร้อมไวน์ และวิสกี้ชั้นดีโคตรๆๆๆๆๆที่แพงระยิบ ซึ่งชาตินี้คงไม่มีปัญญาซื้อมากิน
ของแพง ค่อยๆจิบ 5555
(ปล ทายดิ๊ ขวดเีขียวกะขวดฟ้าคือไร)
(ไวน์? ... ผิดสนิท มันคือ still water กะ carbonated water พูดภาษาชาวบ้านก็คือ น้ำเปล่า และ โซดา นั่นเอง 5555...)
ปล. ที่นั่น still water ขวดจะดีไซน์แบบโคตรสวย เหนมาและหลายยี่ห้อและ สุดๆอะ อยากจะแบกกลับบ้านแต่ไม่มีปัญญา
จบการ Review Blog 2005 - เจอกันใหม่ปี 2006!
คะ ดิชั้นรู้สึกดีใจมาก ที่ดิชั้นเดาถูกว่ามันคืออะไรคะ ฮิ้วๆๆวิ้วๆๆๆ ดิชั้นไปกินร้านภัทราเจอขวดสวยสัดๆๆคุณ ตอนแรกจะเอากลับมาบ้าน แต่โดนท่านพ่อด่าว่าประสาทซะก่อน อดเลย
เฮ้อออออ สาบานได้ว่านี review 55555
"การที่เรามี 'เพื่อน' ที่จริงใจต่อกันนั้นเป็นอะไรที่โคตรจะมีค่า" >> อืมมม.....
but I think that sth in the bottle is Vodka
5++++