หลังจากหยิบหนังสือ Design + Culture ที่น้องไปซื้อจากงานหนังสือมาผ่านตาเล่นๆ ก็สะดุดไปกับคอลัมน์ฺหนึ่งที่พูดถึงโลโก้งานโอลิมปิก ปี 2012 ที่ลอนดอน... อ่านเสร็จแล้วถึงกับมานั่งหาข้อมูลเพิ่มในเนตอย่างเมามันส์ เพราะอะไรนั้น? ลองมาดูกัน ^^


หลายคนคงคุ้นกับโลโก้โอลิมปิกที่ลอนดอนแบบข้างบนนี้... เป็นโลโก้ที่ถูกใช้ในช่วงคัดเลือกเมืองเจ้าภาพจัดกีฬาโอลิมปิกในปี 2012 อย่างไรก็ตาม นี่เป็นเพียงโลโก้ชั่วคราวเท่านั้น...
และแล้ว ในเดือนกค ปีที่ผ่านมา ชาวอังกฤษก็ได้ยลโฉมโลโก้งานโอลิมปิกทางการแบบใหม่ ที่ได้มีการจ้างบริษัท Brand Consultant ชื่อดัง Wolff Olins ซึ่งเคยสร้างแบรนด์อย่าง Orange มาแล้ว มาทำการออกแบบโดยใช้เวลาเป็นปี และงบประมาณราว 400,000 ปอนด์ หรือ 25 ล้านบาท!!!
ผลลัพธ์สร้างความตื่นตะลึงให้กับชาวอังกฤษทั้งประเทศ
เพราะนี่คือผลที่ได้...
ไม่ได้ล้อเล่น!!! เป็นอย่างนี้จริงจริ๊งงงง
ที่น่าตกใจพอๆกับการเห็นดีไซน์ของโลโก้นี้นั้นก็คือ... หลังจากมีการยิงสปอตโฆษณาทางโทรทัศน์ ก็มีรายงานข่าวออกมาว่า โลโก้โอลิมปิก 2012 ที่ทำออกมาเป็นภาพเคลื่อนไหวหลากสี กระตุ้นอาการโรคลมบ้าหมู เพราะมีหน่วยงานไม่หวังผลกำไรที่ดำเนินงานเกี่ยวกับผู้ป่วยลมบ้าหมู ได้รับการร้องเรียนจากผู้ป่วยหลายคน ว่าเกิดอาการลมบ้าหมูกำเริบเมื่อดูภาพเคลื่อนไหวของโลโก้นี้ ซึ่งต่อมาก็ได้รับการฟันธงจากนักวิทยาศาสตร์ด้าน neuro-physiology ว่าภาพเคลื่อนไหวของโลโก้นี้ ไม่ผ่านการทดสอบมาตรฐาน และไม่สมควรได้รับการออกอากาศ!!
คงไม่ต้องเดาว่า ปฏิกริยาตอบรับโลโก้ราคา 25 ล้านบาทอันล้นหลาม ของชาวอังกฤษจะเป็นไปในทิศทางใด (ซึ่งขอบอกว่ามันส์มาก ตามสไตล์ผู้ดีที่ชอบกัดเจ็บกันอยู่แล้ว) เพราะนอกจากมันจะดูไม่ต่างกับโลโก้ที่เด็กอนุบาลวาดเอาเล่นๆแล้ว มันยังดูไม่สื่อถึงกีฬา หรือ 'ลอนดอน' ที่คนอังกฤษแสนภาคภูมิใจนักหนาซักนิด
ผลการสำรวจจากเว็บไซต์ BBC พบว่าประชาชนเกือบ 85% ลงความเห็นว่าโลโก้นี้ ห่วยสิ้นดี ซึ่งสอดคล้องกับสื่ออย่าง The Sun, The Guadian และชาวบล็อกอีกมากมายที่ออกมาุรุมสับ นักข่าวของ The Sun ถึงกับลองเอาตัวเองเข้าไปอยู่ในห้องที่มีโลโก้ London 2012 กว่า 400000 อัน เป็นเวลา 24 ชั่วโมง (ดูรูปด้านบน) เพื่อออกมาบอกว่า คุณไม่ต้องทำตัวให้บ้าเพื่อที่จะชอบโลโก้อันนี้ เพราะในไม่นานคุณก็จะเป็น(บ้า)เอง กระทั่งนายกนครลอนดอนยังออกมากล่าวว่า ตูจะไม่ยอมจ่ายตังค์ซักเพนนีเดียวกับความหายนะในการออกแบบครั้งนี้ พร้อมกับกิจกรรมอีกหลายๆรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นการประชดทำ Tutorial วาดโลโก้ด้วย MS Word การประกวดโลโก้แข่งหรือการล่ารายชื่อถอดถอนโลโก้ จนเรื่องนี้ถูกนำเข้าไปประชุมในสภา! แต่อย่างไรก็ตามสภาก็มีมติไม่ขอร้องให้คณะกรรมการจัดงานเปลี่ยนโลโก้ และคณะกรรมการก็ไม่เปลี่ยนใจที่จะเปลี่ยนโลโก้เช่นกัน
และแล้ว ในเดือนกค ปีที่ผ่านมา ชาวอังกฤษก็ได้ยลโฉมโลโก้งานโอลิมปิกทางการแบบใหม่ ที่ได้มีการจ้างบริษัท Brand Consultant ชื่อดัง Wolff Olins ซึ่งเคยสร้างแบรนด์อย่าง Orange มาแล้ว มาทำการออกแบบโดยใช้เวลาเป็นปี และงบประมาณราว 400,000 ปอนด์ หรือ 25 ล้านบาท!!!
ผลลัพธ์สร้างความตื่นตะลึงให้กับชาวอังกฤษทั้งประเทศ
เพราะนี่คือผลที่ได้...
ไม่ได้ล้อเล่น!!! เป็นอย่างนี้จริงจริ๊งงงง
ที่น่าตกใจพอๆกับการเห็นดีไซน์ของโลโก้นี้นั้นก็คือ... หลังจากมีการยิงสปอตโฆษณาทางโทรทัศน์ ก็มีรายงานข่าวออกมาว่า โลโก้โอลิมปิก 2012 ที่ทำออกมาเป็นภาพเคลื่อนไหวหลากสี กระตุ้นอาการโรคลมบ้าหมู เพราะมีหน่วยงานไม่หวังผลกำไรที่ดำเนินงานเกี่ยวกับผู้ป่วยลมบ้าหมู ได้รับการร้องเรียนจากผู้ป่วยหลายคน ว่าเกิดอาการลมบ้าหมูกำเริบเมื่อดูภาพเคลื่อนไหวของโลโก้นี้ ซึ่งต่อมาก็ได้รับการฟันธงจากนักวิทยาศาสตร์ด้าน neuro-physiology ว่าภาพเคลื่อนไหวของโลโก้นี้ ไม่ผ่านการทดสอบมาตรฐาน และไม่สมควรได้รับการออกอากาศ!!คงไม่ต้องเดาว่า ปฏิกริยาตอบรับโลโก้ราคา 25 ล้านบาทอันล้นหลาม ของชาวอังกฤษจะเป็นไปในทิศทางใด (ซึ่งขอบอกว่ามันส์มาก ตามสไตล์ผู้ดีที่ชอบกัดเจ็บกันอยู่แล้ว) เพราะนอกจากมันจะดูไม่ต่างกับโลโก้ที่เด็กอนุบาลวาดเอาเล่นๆแล้ว มันยังดูไม่สื่อถึงกีฬา หรือ 'ลอนดอน' ที่คนอังกฤษแสนภาคภูมิใจนักหนาซักนิด
ปฏิกริยาของชาวอังกฤษที่เห็นโลโก้นี้
ผลการสำรวจจากเว็บไซต์ BBC พบว่าประชาชนเกือบ 85% ลงความเห็นว่าโลโก้นี้ ห่วยสิ้นดี ซึ่งสอดคล้องกับสื่ออย่าง The Sun, The Guadian และชาวบล็อกอีกมากมายที่ออกมาุรุมสับ นักข่าวของ The Sun ถึงกับลองเอาตัวเองเข้าไปอยู่ในห้องที่มีโลโก้ London 2012 กว่า 400000 อัน เป็นเวลา 24 ชั่วโมง (ดูรูปด้านบน) เพื่อออกมาบอกว่า คุณไม่ต้องทำตัวให้บ้าเพื่อที่จะชอบโลโก้อันนี้ เพราะในไม่นานคุณก็จะเป็น(บ้า)เอง กระทั่งนายกนครลอนดอนยังออกมากล่าวว่า ตูจะไม่ยอมจ่ายตังค์ซักเพนนีเดียวกับความหายนะในการออกแบบครั้งนี้ พร้อมกับกิจกรรมอีกหลายๆรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นการประชดทำ Tutorial วาดโลโก้ด้วย MS Word การประกวดโลโก้แข่งหรือการล่ารายชื่อถอดถอนโลโก้ จนเรื่องนี้ถูกนำเข้าไปประชุมในสภา! แต่อย่างไรก็ตามสภาก็มีมติไม่ขอร้องให้คณะกรรมการจัดงานเปลี่ยนโลโก้ และคณะกรรมการก็ไม่เปลี่ยนใจที่จะเปลี่ยนโลโก้เช่นกัน
หนึ่งในบรรดาโลโก้ล้อเลียนที่ทำกันออกมา
อย่างไรก็ตามคงเป็นการด่วนสรุปไปนี้ดส์ ว่าโลโก้นี้มันแย่ขนาดนั้น เพราะสิ่งหนึ่งที่เห็นได้ชัดคือ London 2012 พยายามใช้ธีมฉูดฉาด สนุกสนาน เอาใจเด็ก เพื่อดึงเกมโอลิมปิกออกจากภาพ 'ความยิ่งใหญ่ อลังการ' อย่างที่จีนกำลังทำอยู่ในตอนนี้ ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดสามารถดูได้จากเว็บไซต์ทางการของ London 2012 ที่มีการใช้สีสันฉูดฉาดสุดๆ ก็คงต้องรอดูต่อไปว่าพอเอามาใช้จริงๆ มันอาจจะไม่ได้ดูแย่อย่างที่เห็นกันในตอนนี้ก็ได้
หรือใครคิดว่าไง?
หรือใครคิดว่าไง?






เหมือนเคยเห็นในข่าวพักใหญ่มาแล้ว... ลืมไปเลยแฮะ
โอ้ว พระเจ้า เพิ่งเห็นเลยครับ!
ผมได้ไปฟัง Patric Cox ผู้ออกแบบโลโก้นี้พูดในงานที่ฮ่องกงมาครับ เหตผลที่เค้ายกมานั่นก็ใช้ได้ทีเดียว และคงกล่อมให้คณะกรรมการยอมซื้อโลโก้นี้ ที่มาที่ไปของโลโก้นี้มันแหวกแนวจากงานโอลิมปิกทุกๆครั้ง (ซึ่งวนเวียนอยู่กับวงกลม คบไฟ เปลวเพลิง ฯลฯ) ที่ผมว่าน่าสนใจก็คือโลโก้มันสามารถไป apply ที่ไหนก็ได้ครับ ไปทำ graffiti ก็ได้ เอาไป screen บนถนนก็ได้ แล้วคนจำได้ เป็ฯการใช้ล่วงหน้า 5 ปี แล้วตอนนี้ถามว่าผมจำโลโก้โอลิมปิคที่จีน กับที่ลอนดอน อันไหนได้แม่นกว่า ผมว่าผมจำของลอนดอนได้ครับ แปลกดีเหมือนกัน คงต้องไปดูกันอีกในไม่กีปีข้างหน้า ว่าผลออกมาจะเป็นอย่างไร
ผลหละเบื่อ ไอ่พวกที่ออกแบบงานหรือโลโก้ ที่พยายามจะฉีกแนวแต่ไปไม่รอด เลยลงเอยด้วยการทำอะไรเดิมๆที่ดีอยู่เเล้ว (ซึ่งในความคิดของพวกเขามันไม่ดี) ให้ออกมาดูแปลกแหวกแนว ดูเหมือนจะมีอะไร หรือ ผ่านการออกแบบอย่างปราณีต แต่ใคความเป็นจริงก็คือไม่มีอะไรเลย มันก็แค่ ตัวเลข 2012 เหลี่ยมๆ
จ้างผม 1000+เลี้ยงข้าว 1มื้อข้างถนน ผมจะเปลี่ยนจาก ไอ่ 2012 เหลี่ยมๆมาเป็น font อังสนา ยังดูดีซะกว่าเลย
ไม่ได้ขวางโลกนะ แต่อะไรที่มันดีอยุ่แล้ว แล้วพยายามจะแหกมันออกไปก็ ตีโจทย์ให้แตก ด้วย...ถ้าทำไม่ได้ เอาตรา 5ห่วงที่มีอยู่เเล้ว มาใช้เหอะ พิมคำว่า london 2012 ข้างใต้ แค่นี้พอและ
อ่า...เราคิดว่า..โลโก้อะไรก็เอาไปทำกราฟิตี้ได้ทั้งนั้นแหละ อยู่ที่การจัดวางมากกว่า...ในความคิดเราของจีนสวย และก็ความหมายดี ไม่ใช่แค่ว่าอยากจะเอาตัวอะไรมาทำเป็นโลโก้ .....ทุกอย่างก็ผ่านการคิดเหมือนกัน
แต่..ของลอนดอน เห็นครั้งแรก งงนะ..ว่านี่หรือโลโก้ แล้วถ้าอยากแหวกแนวจริง ทำไม ไม่หนี ให้พ้นการใช้ ตัวเลขด้วยล่ะ..เค้าก็ใช้กันมาเยอะเหมือนกัน เอะอะก็ตัวเลขแหละ..ง่ายกว่าสัญลักษณ์
ไม่รู้ว่า พอเอาไปใช้จริง จะออกมาเป็นไง..อาจจะดีก็ได้...มั๊งนะ..
ชอบมาดูถูกคนเอเชีย...ชิ..เกลียด...คนเอเชียก็เก่งไม่แพ้คนยุโรปหรอก..เผลอๆ มากกว่าด้วยซ้ำ
ออกจากโข่งกันบ้างก็ดีนะคะ
ถ้าชอบก็งมโข่งไปก่อนก็ได้ค่ะ