กลับมาอีกครั้ง คราวนี้ต้องรีบปั่นบล็อกสักหน่อย ชีวิตเทอมนี้มันมีเรื่องประดังเข้ามาเยอะจริงๆ สัปดาห์ที่ผ่านมานี่ก็เรียกได้ว่าเป็นสัปดาห์แห่งการ 'สมัครงาน' เพราะมีงาน CU JOB FAIR เลยวิ่งวุ่นยื่น applications ไปหลายบริษัทอยู่ ขอให้ได้งานดีๆเฮอะ (-/\-)
กลับมาที่ภูเก็ตกันเป็นบล็อกสุดท้าย... วันที่ 4 วันนี้ตื่นชิลๆสายๆ ก่อนแวะสักการะอนุเสาวรีย์ท้าวเทพกระษัตรี-ท้าวศรีสุนทร ไปกินข้าวกลางวันที่ครัวเจ้าฟ้า อร่อยเช่นเคย^^ ก่อนจะตระเวนไปวัดต่างๆ ส่งปองขึ้นเครื่องกลับบ้าน
จากนั้นก็ถึงเวลามื้อเย็น วันนี้ไปร้าน 'หมอมูดง' ซึ่งได้รับคำขู่จากไอ้จ๊อกมาหลายรอบแล้ว ว่าร้านนี้เผ็ด World Class ปรากฏว่าร้านนี้เป็นร้านประเภท 'ดังเงียบ' จริงๆครับ คือถนนที่จะไปร้านเนี่ย แทบไม่เห็นร่องรอยอารยะธรรมความเจริญ ป้ายนี่ไม่มีบอกเล้ย จนกระทั่งมาถึงร้านแล้วเนี่ย ซึ่งป้ายมีขนาดอยู่แค่เนี้ยะ (ดูรูปประกอบ) แค่นี้จริงๆ
ก็ ปรากฏว่า ข้างในใหญ่กว่าที่คิด มีศาลาเป็นหลังๆ มีทางลงไปป่าชายเลน คือร้านมันอยู่ตรงป่าชายเลนเลยว่างั้นเหอะ
และแล้วอาหารปักษ์ใต้แท้ๆก็เริ่มเสิร์ฟ ซึ่งมันก็ อร่อยนะ แต่ว่า เผ็ดเวิลด์คลาสจริงๆด้วยโว้ยยยย กินแล้วอ้าปากไม่หยุึด ขำมาก ไอ้ปลายเผ็ดจนน้ำตาไหล แถมมีช่วงวิกฤติ ข้าวหมด น้ำหมด น้ำแข็งหมดอีก แทบตายกันไปข้า่ง
แกงส้ม กะคั่วกลิ้ง (ซ้าย) -- ซากคั่วกลิ้ง (ขวา)
ดูรูปแล้วคงพอจะเก็ทไอเดีย รูปซ้ายนั่นคือปลาไรสักอย่างจำไม่ได้แล้ว สั่งมาหน้าตาเหมือนปลาทูทอดทั่วไป แต่พอเอาช้อนกดไปปุ๊บ เฮ่ย! ข้างในไม่ใช่เนื้อปลา!!! แต่เป็นไส้รสชาติคล้ายๆห่อหมกแต่มีความเด้งดึ๋งกึ่งๆทอดมันปลากราย อร่อยดี
เอาเปนว่า คอนเซปร้านนี้คือ แสบตั้งแต่เข้าปากยัน...ตรู๊ส -_- คือกินเสร็จนี่มีความวูบวาบๆเหมือนเป็น Radar track ตำแหน่งอาหารตามลำไส้ว่าไปถึังไหนแล้ว ส่วนเช้าวันต่อมานี่ก็... อะนะ แซ่บส์กันไปตามๆกัน (พูดแค่นี้คงพอเข้าใจ 55)
ลืมบอกไป ว่าพอกินหมอมูดงเสร็จนี่ทุกคนรีบมุ่งหน้ากลับไปร้านป่าหลาย (มื้อเย็นเมื่อวาน) เพื่อไปสั่งโอเอ๋วมาดับความเผ็ด กินตอนนี้นี่เหมือนขึ้นสวรรค์จริงๆ
ตกดึกวันนี้ก็เฮฮาปารตี้ในสระน้ำเป็นวันสุดท้ืาย รั่วกันได้เรื่องมากๆ เป็นการปิดท้ายทริปมหัศจรรย์ครั้งนี้ ก่อนจะตื่นมาบินกลับตอนเช้าแล้วรีบไปเรียนต่อตอนบ่าย (ใช้ชีวิตคุ้มค่าจริงๆ)
ทริปนี้เป็นทริปที่สนุกจริงๆนะ ถ้านับว่าทริปอัมพวาเป็นทริปสุดชิล ทริปรั่วๆ และทริปกิน นับทริปภูกระดึงเป็นสุดยอดทริปธรรมชาติชิลๆ บรรยากาศสวยๆ อากาศดีๆ ทริปภูเก็ตคงเป็นอีกทริปนึง ที่มีเสียงหัวเราะไม่หยุด มีของกินอร่อยๆ และมีที่พักระดับสุดยอด (แต่ให้คะแนนหัวเราะทริปนี้มากสุดและ ^^)
ต้องขอบคุณเพื่อนทุักคนที่มีส่วนร่วมในความทรงจำดีๆอีกครั้งหนึ่ง... โดยเฉพาะ...
ปอ (และครอบครัว) - สำหรับที่พัก รถ และ งบประมาณกองกลางก้อนโต ถ้าไม่มีแกเราคงไม่มีปัญญาแร่ดกันได้มันส์ขนาดนี้ โดยไม่ต้องห่วงเรื่องตังค์ แล้วก็คงไม่มีโอกาสไปรั่วในสระน้ำแบบนี้ได้แน่ (ล่าสุดบอกมาอีกว่าจะไปอีกรอบก็ได้ หวังว่าบ้านคงอยู่จนกระทั่งมีนานะ 5555 ถ้ายังไปได้ในช่วงนั้นรับรองไปถล่มอีกครั้งแน่.. สาธุ)
จ๊อก - ไกด์เฉพาะกิจที่สรรหาโปรแกรมเด็ดๆ ร้านอร่อยๆให้
มิก - ขาดคนนี้ไปคงไม่มีเรื่องฮาไปเยอะว่ะ (ถึงแม้มันจะไม่ได้ตั้งใจเลยเฮอะ)
เอก ติ๊ แวว ปอง ปลาย -- ทุกคนเป็นส่วนผสมที่ลงตัวของทริปนี้จริงๆ
ขอบคุณและขอโทษเพื่อนๆอีกหลายคนที่ไม่ได้มาทริปนี้ เำพราะต้องทนให้เราตื๊อ หรือแกล้งยกเรื่องโน่นนี่มากดดันให้มาทริปอยู่ซ้ำๆซากๆ จนไม่รู้จะีมีใครอึดอัดรึเปล่า... หลายคนก็อยากไปแต่ไปไม่ได้จริงๆ ถ้าเราทำอะไรผิดก็ต้องขอโทษมาด้วยน้า ย้ำอีกทีว่าเราไม่ได้โกรธใครเลยที่ไปทริปนี้ไม่ได้อะ จริงๆ ไว้แก้ตัวกันใหม่ทริปเขาใหญ่ มกรานี้เด้อ ^^
(Act @ Phuket Gateway)
กลับมาที่ภูเก็ตกันเป็นบล็อกสุดท้าย... วันที่ 4 วันนี้ตื่นชิลๆสายๆ ก่อนแวะสักการะอนุเสาวรีย์ท้าวเทพกระษัตรี-ท้าวศรีสุนทร ไปกินข้าวกลางวันที่ครัวเจ้าฟ้า อร่อยเช่นเคย^^ ก่อนจะตระเวนไปวัดต่างๆ ส่งปองขึ้นเครื่องกลับบ้าน
จากนั้นก็มุ่งหน้าไปที่ Phuket Gateway หรือ ประตูเมืองภูเก็ต ซึ่งถือเป็น Attraction ใหม่อีกที่ที่น่าสนใจมาก เพราะที่นี่จัดได้ว่ามีสถาปัตยกรรมที่โดดเด่นเชียวแหละ ภายในมีศูนย์ข้อมูลนักท่องเที่ยว แวะที่นี่ก็เล่นถ่ายรูปเอาอย่างเดียว มีมุมดีๆตรึม (อ้อนไปคงชอบแน่)
จากนั้นก็ถึงเวลามื้อเย็น วันนี้ไปร้าน 'หมอมูดง' ซึ่งได้รับคำขู่จากไอ้จ๊อกมาหลายรอบแล้ว ว่าร้านนี้เผ็ด World Class ปรากฏว่าร้านนี้เป็นร้านประเภท 'ดังเงียบ' จริงๆครับ คือถนนที่จะไปร้านเนี่ย แทบไม่เห็นร่องรอยอารยะธรรมความเจริญ ป้ายนี่ไม่มีบอกเล้ย จนกระทั่งมาถึงร้านแล้วเนี่ย ซึ่งป้ายมีขนาดอยู่แค่เนี้ยะ (ดูรูปประกอบ) แค่นี้จริงๆ
นี่คือทางเข้าร้าน เลี้ยวไปตรงถนนดินนั่นแหละ ส่วนป้าย ก็เล็กๆอย่างที่เห็นตัวหนังสือสีเหลืองๆ
ก็ ปรากฏว่า ข้างในใหญ่กว่าที่คิด มีศาลาเป็นหลังๆ มีทางลงไปป่าชายเลน คือร้านมันอยู่ตรงป่าชายเลนเลยว่างั้นเหอะ
และแล้วอาหารปักษ์ใต้แท้ๆก็เริ่มเสิร์ฟ ซึ่งมันก็ อร่อยนะ แต่ว่า เผ็ดเวิลด์คลาสจริงๆด้วยโว้ยยยย กินแล้วอ้าปากไม่หยุึด ขำมาก ไอ้ปลายเผ็ดจนน้ำตาไหล แถมมีช่วงวิกฤติ ข้าวหมด น้ำหมด น้ำแข็งหมดอีก แทบตายกันไปข้า่ง
แกงส้ม กะคั่วกลิ้ง (ซ้าย) -- ซากคั่วกลิ้ง (ขวา)
ปลาอะไรสักอย่าง... (ซ้าย) -- อุปกรณ์ดับเพลิง โอ้เอ๋วร้านป่าหลาย(ขวา)
ดูรูปแล้วคงพอจะเก็ทไอเดีย รูปซ้ายนั่นคือปลาไรสักอย่างจำไม่ได้แล้ว สั่งมาหน้าตาเหมือนปลาทูทอดทั่วไป แต่พอเอาช้อนกดไปปุ๊บ เฮ่ย! ข้างในไม่ใช่เนื้อปลา!!! แต่เป็นไส้รสชาติคล้ายๆห่อหมกแต่มีความเด้งดึ๋งกึ่งๆทอดมันปลากราย อร่อยดี
เอาเปนว่า คอนเซปร้านนี้คือ แสบตั้งแต่เข้าปากยัน...ตรู๊ส -_- คือกินเสร็จนี่มีความวูบวาบๆเหมือนเป็น Radar track ตำแหน่งอาหารตามลำไส้ว่าไปถึังไหนแล้ว ส่วนเช้าวันต่อมานี่ก็... อะนะ แซ่บส์กันไปตามๆกัน (พูดแค่นี้คงพอเข้าใจ 55)
ลืมบอกไป ว่าพอกินหมอมูดงเสร็จนี่ทุกคนรีบมุ่งหน้ากลับไปร้านป่าหลาย (มื้อเย็นเมื่อวาน) เพื่อไปสั่งโอเอ๋วมาดับความเผ็ด กินตอนนี้นี่เหมือนขึ้นสวรรค์จริงๆ
ตกดึกวันนี้ก็เฮฮาปารตี้ในสระน้ำเป็นวันสุดท้ืาย รั่วกันได้เรื่องมากๆ เป็นการปิดท้ายทริปมหัศจรรย์ครั้งนี้ ก่อนจะตื่นมาบินกลับตอนเช้าแล้วรีบไปเรียนต่อตอนบ่าย (ใช้ชีวิตคุ้มค่าจริงๆ)
ทริปนี้เป็นทริปที่สนุกจริงๆนะ ถ้านับว่าทริปอัมพวาเป็นทริปสุดชิล ทริปรั่วๆ และทริปกิน นับทริปภูกระดึงเป็นสุดยอดทริปธรรมชาติชิลๆ บรรยากาศสวยๆ อากาศดีๆ ทริปภูเก็ตคงเป็นอีกทริปนึง ที่มีเสียงหัวเราะไม่หยุด มีของกินอร่อยๆ และมีที่พักระดับสุดยอด (แต่ให้คะแนนหัวเราะทริปนี้มากสุดและ ^^)
ต้องขอบคุณเพื่อนทุักคนที่มีส่วนร่วมในความทรงจำดีๆอีกครั้งหนึ่ง... โดยเฉพาะ...
ปอ (และครอบครัว) - สำหรับที่พัก รถ และ งบประมาณกองกลางก้อนโต ถ้าไม่มีแกเราคงไม่มีปัญญาแร่ดกันได้มันส์ขนาดนี้ โดยไม่ต้องห่วงเรื่องตังค์ แล้วก็คงไม่มีโอกาสไปรั่วในสระน้ำแบบนี้ได้แน่ (ล่าสุดบอกมาอีกว่าจะไปอีกรอบก็ได้ หวังว่าบ้านคงอยู่จนกระทั่งมีนานะ 5555 ถ้ายังไปได้ในช่วงนั้นรับรองไปถล่มอีกครั้งแน่.. สาธุ)
จ๊อก - ไกด์เฉพาะกิจที่สรรหาโปรแกรมเด็ดๆ ร้านอร่อยๆให้
มิก - ขาดคนนี้ไปคงไม่มีเรื่องฮาไปเยอะว่ะ (ถึงแม้มันจะไม่ได้ตั้งใจเลยเฮอะ)
เอก ติ๊ แวว ปอง ปลาย -- ทุกคนเป็นส่วนผสมที่ลงตัวของทริปนี้จริงๆ
ขอบคุณและขอโทษเพื่อนๆอีกหลายคนที่ไม่ได้มาทริปนี้ เำพราะต้องทนให้เราตื๊อ หรือแกล้งยกเรื่องโน่นนี่มากดดันให้มาทริปอยู่ซ้ำๆซากๆ จนไม่รู้จะีมีใครอึดอัดรึเปล่า... หลายคนก็อยากไปแต่ไปไม่ได้จริงๆ ถ้าเราทำอะไรผิดก็ต้องขอโทษมาด้วยน้า ย้ำอีกทีว่าเราไม่ได้โกรธใครเลยที่ไปทริปนี้ไม่ได้อะ จริงๆ ไว้แก้ตัวกันใหม่ทริปเขาใหญ่ มกรานี้เด้อ ^^
เกิดอาการรักพี่เสียดายน้องกันสุดๆ กับช่วงนี้ ที่งานดนตรีประดังเข้ามาแบบไม่ยั้ง
ตั้งแต่สัปดาห์ที่แล้วที่มี CU MUSIC FEST
และลานเบียร์ Green Space ที่ตารางเต็มพรืดไปจนถึงสิ้นเดือน ธันวา
เอ้า พวกเรา! ไปงานไหนดีฟระ
ศุกร์ที่ 9 พ.ย. Modern Dog เซ็นทรัล รามอินทรา
อังคารที่ 13 พ.ย. เจนนิเฟอร์ คิ้ม+เจ เจตริน เซ็นทรัลเวิร์ลด์พลาซ่า
พุธที่ 14 พ.ย. นุ้ย เดอะพีชแบนด์+โอ๋ ดูบาดู La Villa (อารีย์)
พฤหัสที่ 15 พ.ย. Modern Dog เซ็นทรัลเวิร์ลด์พลาซ่า <- ไปดูมาแล้วววว
พฤหัสที่ 15 พ.ย. Paradox เซ็นทรัล บางนา
อังคารที่ 20 พ.ย. Flure เซ็นทรัลเวิร์ลด์พลาซ่า
พุธที่ 21 พ.ย. Modern Dog เซ็นทรัล ปิ่นเกล้า
พฤหัสที่ 22 พ.ย. Sqweez Animal J-Avenue
ศุกร์ที่ 23 พ.ย. Lipta La Villa
อังคารที่ 27 พ.ย. Slot Machine เซ็นทรัลเวิร์ลด์พลาซ่า
พุธที่ 28 พ.ย. Nuvo เซ็นทรัล รามอินทรา
พฤหัสที่ 29 พ.ย. Jetset'er J-Avenue
อังคารที่ 4 ธ.ค . T-Bone เซ็นทรัลเวิร์ลด์พลาซ่า
พฤหัสที่ 6 ธ.ค. เบน ชลาทิศ La Villa
ศุกร์ที่ 7 ธ.ค. Paradox เซ็นทรัล ปิ่นเกล้า
อังคารที่ 11 ธ.ค. หนุ่ย อำพล ลำพูน เซ็นทรัลเวิร์ลด์พลาซ่า
พุธที่ 12 ธ.ค. Scrubb J-Avenue
พฤหัสที่ 13 ธ.ค. Clash เซ็นทรัล บางนา
อังคารที่ 18 ธ.ค. Paradox เซ็นทรัลเวิร์ลด์พลาซ่า
พุธที่ 19 ธ.ค. Scrubb La Villa
พฤหัสที่ 20 ธ.ค. เบน ชลาทิศ J-Avenue
จันทร์ที่ 24 ธ.ค. คริสติน่า อากีลาร์ เซ็นทรัลเวิร์ลด์พลาซ่า
จันทร์ที่ 31 ธ.ค. B Crescendo, Ben Chalatit เซ็นทรัลเวิร์ลด์พลาซ่า
นอกจากนี้ วันที่เสาร์ อาทิตย์ 1-2 ยังมี Bangkok City Music Festival งานดีๆ ฟรีๆ ที่สวนเบญจกิตติ (ข้างเอมโพเรี่ยม)
(แต่ปีนี้ตารางจัดประหลาดๆ แฮะ) ถ้าไม่ชนกับทริปภาคก็ไปเล่นๆก็ได้นะ
ยัง ยังไม่พออ!!!
วันเสาร์ที่ 1 ธันวา ยังมี Free Jazz Concert, French-German Event
ตั้งแต่เวลา 16.00 น.
ณ สวนลุมพินี บริเวณสวนปาล์ม (เรียกได้ว่ามีงานที่สวนเบน สวนลุมก็มีด้วย)
เข้าชมฟรี ท่านจะได้พบกับโก้มิสเตอร์แซคแมน วงทรีโอจากเยอรมันโดย Franck Woeste และวงแจ๊สเครื่องดนตรีสี่ชิ้นจากฝรั่งเศสโดย Pierrick Pedron ซึ่งศิลปินทั้งหมดได้เตรียมเพลงแจ๊สหลากหลายแนว ไม่ว่าจะเป็น สแตนดาร์ท โมเดิร์น ที่เน้นจังหวะอันนุ่มลึกมาให้ทุกท่านได้เพลิดเพลินในบรรยากาศยามเย็น.....
ยังไม่หมดอีก!!!
วันอาทิตย์ที่ 2 ธันวา ก็มี คอนเสิร์ตเปิดอัลบั้ม Lift up your life with Groove Riders
"GSM advance เชิญคุณต้อนรับการกลับมาของ Godfather of Disco กับ The Lift อัลบั้มใหม่ล่าสุดในรอบ 6 ปี ของ Groove Riders พบกับคอนเสิร์ตสุดพิเศษ GSM advance Presents Lift up your life with Groove Riders
ในวันอาทิตย์ที่ 2 ธันวาคม 2550 ที่ ลานมรกต เซ็นทรัลชิดลม เวลา 18.00 น. เป็นต้นไป ในงานคอนเสิร์ตทาง GSM
advance ยังเตรียมกิจกรรมมากมายที่บูธของ GSM advance ให้คุณลูกค้าได้ร่วมสนุกและแจกของรางวัลแบบไม่อั้น พลาดไม่ได้เด็ดขาด"
นอกจากนี้ รู้สึกว่า Groove Riders ยังจะไปเล่นที่ Truelife ทองหล่อวันที่ 7 ธันวาอีกด้วย
อะไรกันนักกันหนาเนี่ยยยย
ตั้งแต่สัปดาห์ที่แล้วที่มี CU MUSIC FEST
และลานเบียร์ Green Space ที่ตารางเต็มพรืดไปจนถึงสิ้นเดือน ธันวา
เอ้า พวกเรา! ไปงานไหนดีฟระ
ตารางงาน Heineken Greenspace
ศุกร์ที่ 9 พ.ย. Modern Dog เซ็นทรัล รามอินทรา
อังคารที่ 13 พ.ย. เจนนิเฟอร์ คิ้ม+เจ เจตริน เซ็นทรัลเวิร์ลด์พลาซ่า
พุธที่ 14 พ.ย. นุ้ย เดอะพีชแบนด์+โอ๋ ดูบาดู La Villa (อารีย์)
พฤหัสที่ 15 พ.ย. Modern Dog เซ็นทรัลเวิร์ลด์พลาซ่า <- ไปดูมาแล้วววว
พฤหัสที่ 15 พ.ย. Paradox เซ็นทรัล บางนา
อังคารที่ 20 พ.ย. Flure เซ็นทรัลเวิร์ลด์พลาซ่า
พุธที่ 21 พ.ย. Modern Dog เซ็นทรัล ปิ่นเกล้า
พฤหัสที่ 22 พ.ย. Sqweez Animal J-Avenue
ศุกร์ที่ 23 พ.ย. Lipta La Villa
อังคารที่ 27 พ.ย. Slot Machine เซ็นทรัลเวิร์ลด์พลาซ่า
พุธที่ 28 พ.ย. Nuvo เซ็นทรัล รามอินทรา
พฤหัสที่ 29 พ.ย. Jetset'er J-Avenue
อังคารที่ 4 ธ.ค . T-Bone เซ็นทรัลเวิร์ลด์พลาซ่า
พฤหัสที่ 6 ธ.ค. เบน ชลาทิศ La Villa
ศุกร์ที่ 7 ธ.ค. Paradox เซ็นทรัล ปิ่นเกล้า
อังคารที่ 11 ธ.ค. หนุ่ย อำพล ลำพูน เซ็นทรัลเวิร์ลด์พลาซ่า
พุธที่ 12 ธ.ค. Scrubb J-Avenue
พฤหัสที่ 13 ธ.ค. Clash เซ็นทรัล บางนา
อังคารที่ 18 ธ.ค. Paradox เซ็นทรัลเวิร์ลด์พลาซ่า
พุธที่ 19 ธ.ค. Scrubb La Villa
พฤหัสที่ 20 ธ.ค. เบน ชลาทิศ J-Avenue
จันทร์ที่ 24 ธ.ค. คริสติน่า อากีลาร์ เซ็นทรัลเวิร์ลด์พลาซ่า
จันทร์ที่ 31 ธ.ค. B Crescendo, Ben Chalatit เซ็นทรัลเวิร์ลด์พลาซ่า
นอกจากนี้ วันที่เสาร์ อาทิตย์ 1-2 ยังมี Bangkok City Music Festival งานดีๆ ฟรีๆ ที่สวนเบญจกิตติ (ข้างเอมโพเรี่ยม)
(แต่ปีนี้ตารางจัดประหลาดๆ แฮะ) ถ้าไม่ชนกับทริปภาคก็ไปเล่นๆก
วันเสาร์ที่ 1 ธันวาคม 2550
Etc./ นัท มีเรีย / นูโว / กอล์ฟ-ไมค์ / อุ้ย-รวิวรรณ จินดา / ปั่น-ไพบูลย์เกียรติ เขียวแก้ว / ตุ๊ก-วิยดา โกมารกุล ณ นคร / มิ้นท์-มาลีวัลย์ เจมีน่า / แต๋ม-ชรัส เฟื่องอารมณ์ / ป้อม ออโต้บาห์น / เบิร์ด กะ ฮาร์ท / โก้ Mr.Saxman / ลูกปัด-ชลนรรจ์ ลิ่มไทย / เดียร์ Acappella7
วันอาทิตย์ที่ 2 ธันวาคม 2550
Etc./ ไอซ์-ศรัณยู วินัยพานิช / ดัง-พันกร บุญยะจินดา / ปาน-ธนพร แวกประยูร / อ้อม-สุนิสา สุขบุญสังข์ / ติ๊ก ชีโร่ / ปีเตอร์ คอร์ป / Modern Dog
ยัง ยังไม่พออ!!!
วันเสาร์ที่ 1 ธันวา ยังมี Free Jazz Concert, French-German Event
ตั้งแต่เวลา 16.00 น.
ณ สวนลุมพินี บริเวณสวนปาล์ม (เรียกได้ว่ามีงานที่สวนเบน สวนลุมก็มีด้วย)
เข้าชมฟรี ท่านจะได้พบกับโก้มิสเตอร์แซคแมน วงทรีโอจากเยอรมันโดย Franck Woeste และวงแจ๊สเครื่องดนตรีสี่ชิ้นจากฝรั่งเศสโดย Pierrick Pedron ซึ่งศิลปินทั้งหมดได้เตรียมเพลงแจ๊สหลากหลายแนว ไม่ว่าจะเป็น สแตนดาร์ท โมเดิร์น ที่เน้นจังหวะอันนุ่มลึกมาให้ทุกท่านได้เพลิดเพลินในบรรยากาศยามเย็น.....
ยังไม่หมดอีก!!!
วันอาทิตย์ที่ 2 ธันวา ก็มี คอนเสิร์ตเปิดอัลบั้ม Lift up your life with Groove Riders
"GSM advance เชิญคุณต้อนรับการกลับมาของ Godfather of Disco กับ The Lift อัลบั้มใหม่ล่าสุดในรอบ 6 ปี ของ Groove Riders พบกับคอนเสิร์ตสุดพิเศษ GSM advance Presents Lift up your life with Groove Riders
ในวันอาทิตย์ที่ 2 ธันวาคม 2550 ที่ ลานมรกต เซ็นทรัลชิดลม เวลา 18.00 น. เป็นต้นไป ในงานคอนเสิร์ตทาง GSM
advance ยังเตรียมกิจกรรมมากมายที่บูธของ GSM advance ให้คุณลูกค้าได้ร่วมสนุกและแจกของรางวัลแบบไม่อั้น พลาดไม่ได้เด็ดขาด"
นอกจากนี้ รู้สึกว่า Groove Riders ยังจะไปเล่นที่ Truelife ทองหล่อวันที่ 7 ธันวาอีกด้วย
อะไรกันนักกันหนาเนี่ยยยย
มาต่อกับทริปภูเก็ต วันที่สาม! อืมมม คราวนี้อาจจะเล่าดูไม่ค่อยต่อเนื่องหน่อย ก็ ขออภัยด้วย เพราะวันนี้เป็นวันที่ยาวนานนน จริงๆ
สำหรับภูเก็ตวันที่สาม ตอนเช้าจัดโปรแกรมลงเรือไปเกาะไข่กัน! ก่อนหน้านี้วันนึงยังหวั่นๆกันว่าฝนมันจะตกรึเ่ปล่าว้า ปรากฏว่า โชคดีจริงๆ (และโชคดีตลอดทริปอย่างไม่น่าเชื่อ) เพราะเช้าวันนี้คลื่นลมสงบ(มาก) และอากาศดีสุดๆ
สปอตแรกที่ไปกันคือเกาะไข่นุ้ย ซึ่งเป็นจุดสนอกเกิ้ลที่ปลาและปะการังสวยมาก (ไม่แพ้ตอนไปเกาะเต่าเลย) คราวนี้ไกด์พาไปดูปลาการ์ตูน (Nemo) ตัวเป็นๆ หลบอยู่ในประการังอ่อนซะด้วย ^^ (ตัวเล็กนิดเีดียวเองอะ ใหญ่กว่าหัวแม่โป้งหน่อยนึงเท่านั้น)
หลังจากดำน้ำที่นี่่ก็นั่งเรือต่อไปเกาะไข่นอก กินข้าว(กล่อง)เที่ยง บนเกาะนี้น้ำทะเลสีสวยสุดๆ หาดด้านหนึ่งเป็นสโลพเตี้ยๆแต่ที่เด็ดก็คือน้ำใสมาก และ ปลา ตรึม (ตรึมจริงๆ)
ปลาแถวนี้นิสัยเสียแล้วมั้ง กินแต่ขนมปัง จริงๆมีตัวใหญ่ๆด้วยแต่ถ่ายไม่ติด (กลัวกล้องพัง แหะๆ) อย่างไรก็ตามปลามันก็ไม่โง่พอที่จะหลงติดกับจับปลาตื้นๆของคน (ไอ้พวกประเภท เอาถุงขนมปังล่อ เอามือ เสื้อ กระทั่งตีนกบมาจับปลา ประมาณนี้แหละ ไม่เวิร์คครับ ไม่เวิร์คคคคอย่างแรง ทำแล้วเหมือนโดนปลาดูถูกว่าเอ็งทำอะไรของเอ็ง โง่จริงๆ)
แถมชอตกระโดดมั่วๆอีกที 55
สำหรับภูเก็ตวันที่สาม ตอนเช้าจัดโปรแกรมลงเรือไปเกาะไข่กัน! ก่อนหน้านี้วันนึงยังหวั่นๆกันว่าฝนมันจะตกรึเ่ปล่าว้า ปรากฏว่า โชคดีจริงๆ (และโชคดีตลอดทริปอย่างไม่น่าเชื่อ) เพราะเช้าวันนี้คลื่นลมสงบ(มาก) และอากาศดีสุดๆ
สปอตแรกที่ไปกันคือเกาะไข่นุ้ย ซึ่งเป็นจุดสนอกเกิ้ลที่ปลาและปะการังสวยมาก (ไม่แพ้ตอนไปเกาะเต่าเลย) คราวนี้ไกด์พาไปดูปลาการ์ตูน (Nemo) ตัวเป็นๆ หลบอยู่ในประการังอ่อนซะด้วย ^^ (ตัวเล็กนิดเีดียวเองอะ ใหญ่กว่าหัวแม่โป้งหน่อยนึงเท่านั้น)
หลังจากดำน้ำที่นี่่ก็นั่งเรือต่อไปเกาะไข่นอก กินข้าว(กล่อง)เที่ยง บนเกาะนี้น้ำทะเลสีสวยสุดๆ หาดด้านหนึ่งเป็นสโลพเตี้ยๆแต่ที่เด็ดก็คือน้ำใสมาก และ ปลา ตรึม (ตรึมจริงๆ)
ปลาแถวนี้นิสัยเสียแล้วมั้ง กินแต่ขนมปัง จริงๆมีตัวใหญ่ๆด้วยแต่ถ่ายไม่ติด (กลัวกล้องพัง แหะๆ) อย่างไรก็ตามปลามันก็ไม่โง่พอที่จะหลงติดกับจับปลาตื้นๆของคน (ไอ้พวกประเภท เอาถุงขนมปังล่อ เอามือ เสื้อ กระทั่งตีนกบมาจับปลา ประมาณนี้แหละ ไม่เวิร์คครับ ไม่เวิร์คคคคอย่างแรง ทำแล้วเหมือนโดนปลาดูถูกว่าเอ็งทำอะไรของเอ็ง โง่จริงๆ)
แถมชอตกระโดดมั่วๆอีกที 55
หลังจากเสร็จทริปออกเรือ ...กลับมาบ้าน... แล้วก็... ลงเล่นน้ำในสระต่อ :D (เอาให้ตัวเปื่อยกันไปข้าง!) การมีสระส่วนตัวมันดีอย่างนี้นี่เอง เพราะกินมันได้ทุกอย่างโดยไม่ต้องเสียตังค์แบบสระในโรงแรม วันนี้เลยขนเอามาม่า! ขนม เครื่องดื่ม (+ Heineken + Malibu) มาซัดกันให้หนำใจ แถมจะเล่นอะไรรั่วๆก็ได้ไม่ต้องกลัวสายตาคนอื่น ลิงชิงบอล... เล่นไพ่... และที่เด็ดสุดก็คือการได้ลอยคอบนห่วงยาง ซึ่งถ้าไม่มีสระส่วนตัวคงโดนสมเพชไปแล้วล่ะ (แต่มันสบายจริงๆนะ 555) สนุกมากกกกกกกกกกกกกๆๆๆๆๆๆๆ จริงๆ ขำกัน Non-Stop จนท้องแข็งกันไปข้าง ไอ้ปอหัวเราะสะใจสุดๆ เห็นด้วยกับไอ้จ๊อคจริงๆ ที่ว่าไม่ได้ขำฮาไม่หยุดอย่างงี้มาตั้งแต่ ม ปลายแล้ว XD
จบจากวีรกรรมยิบย่อยมากมายในสระ ก็ได้เวลาอาหารเย็น คราวนี้ไปกันที่ ป่าหล่ายซีฟู้ด ก็เป็นอีกมื้อที่น่าประทับใจ มื้อนี้ไม่สั่งซีฟู้ดแล้วเพราะเบื่อ! (เป็นเหตุผลที่น่าหมั่นไส้มาก) เอาเป็นว่า เอาภาพผัดผักกะเป๊ก (จานขวารูปซ้าย) กะลูกชิ้นปลาสุดนุ่มมมมมม ให้ดูแก้หิวไปพลางๆก่อน ^^
จากป่าหล่าย ก็ไปป่าตอง (น่าน คล้องจองอีก) ช่วงนี้ฝนตกพรำๆ แต่ไม่ใช่ปัญหาอยู่แล้ว แวะคาร์ฟูร์เพิ่มเสบียง ก่อนจะลงไปดูบอล (พร้อมวีรกรรมสั่งคอกเทลของใครบางคน) แล้วก็เดินดูไนท์ไลฟ์หลังจากฝนหยุด
ปรากฏว่า อยู่ดีๆก็เห็นดวงไฟเป็นสายบนท้องฟ้า... โคมลอยนั่นเอง! หลังจากเดินหาแหล่งที่มาสักพัก ก็ไปเจอกับฝูงชนกำลังปล่อยโคมลอยกันอยู่ที่หาดป่าตอง ปรากฏว่าวันนี้เป็นวันสุดท้ายของเทศกาลหาดป่าตอง (หรืออะไรสักอย่าง) เลยมีการแจกโคมลอยให้ปล่อย ฟรี!!!!! (โชคดีโคตรๆอีกแล้ววันนี้) สรุปว่าวันนี้เลยปล่อยโคมไปตั้งหกเจ็ดอัน 5555 (อันแรกๆยังเฟลๆ แต่อันหลังๆเริ่มโปร)
ความจริงในความดีมันก็มีเรื่องแย่ๆ เช่นสภาพไนท์ไลฟ์ที่ ...ก็อย่างที่รู้กันน่ะ ว่าน่าจะเป็นอย่างไร หรือความเห็นแก่ตัวของคนไทยบางคน ที่ไปเอาโคมฟรีมาหลอกขายนักท่องเที่ยวอันละร้อย! หรือเอาดอกไม้ไฟมาขายกลางบริเวณที่เค้าปล่อยโคมลอยกัน (เสียงดังหนวกหูสุดๆ แล้วปล่อยแบบไม่ดูเลยว่าจะยิงโดนคนที่อยู่บริเวณนั้นรึเปล่า) นอกจากนี้ตอนปล่อยก็ยังต้องคอยระวังโคมที่คนต้นหาดมันปล่อย (แล้วมีน้ำมันติดไฟหยดลงมา) โดนไปหนึ่งหยดตรงมือ ร้อนชิบ -*-
งานนี้ไม่ได้มีแค่โคมลอย แต่ยังมีจุดพลุฉลองอีก สรุปก็ได้ดูโชว์ดอกไม้ไฟไปอีกหนึ่งชุด บอกแล้ววันนี้แสนจะโชคดี... Perfect สุดๆ เป็นอีกวันที่ดีที่สุดในชีวิตจริงๆ :) ในบรรดาทริปภูเก็ตเนี่ย ถ้าไม่นับซีฟู้ดสุดอร่อยแล้วเนี่ย วันนี้สุดยอดที่สุดจริงๆ
คราวหน้าติดตามกับวันสุดท้าย (ก่อนกลับ) ที่ภูเก็ตครับพ้ม!
เพื่อสงวนสิทธิ์ความเป็นส่วนตัว จึงไม่สามารถนำภาพในสระมาเปิดเผยได้ (เดี๋ยวจะกลายเป็นการประจานหุ่น) เลยเอารูปผู้สนับสนุนอย่างไม่เป็นทางการให้ดูแทนละกัน
จบจากวีรกรรมยิบย่อยมากมายในสระ ก็ได้เวลาอาหารเย็น คราวนี้ไปกันที่ ป่าหล่ายซีฟู้ด ก็เป็นอีกมื้อที่น่าประทับใจ มื้อนี้ไม่สั่งซีฟู้ดแล้วเพราะเบื่อ! (เป็นเหตุผลที่น่าหมั่นไส้มาก) เอาเป็นว่า เอาภาพผัดผักกะเป๊ก (จานขวารูปซ้าย) กะลูกชิ้นปลาสุดนุ่มมมมมม ให้ดูแก้หิวไปพลางๆก่อน ^^
จากป่าหล่าย ก็ไปป่าตอง (น่าน คล้องจองอีก) ช่วงนี้ฝนตกพรำๆ แต่ไม่ใช่ปัญหาอยู่แล้ว แวะคาร์ฟูร์เพิ่มเสบียง ก่อนจะลงไปดูบอล (พร้อมวีรกรรมสั่งคอกเทลของใครบางคน) แล้วก็เดินดูไนท์ไลฟ์หลังจากฝนหยุด
ปรากฏว่า อยู่ดีๆก็เห็นดวงไฟเป็นสายบนท้องฟ้า... โคมลอยนั่นเอง! หลังจากเดินหาแหล่งที่มาสักพัก ก็ไปเจอกับฝูงชนกำลังปล่อยโคมลอยกันอยู่ที่หาดป่าตอง ปรากฏว่าวันนี้เป็นวันสุดท้ายของเทศกาลหาดป่าตอง (หรืออะไรสักอย่าง) เลยมีการแจกโคมลอยให้ปล่อย ฟรี!!!!! (โชคดีโคตรๆอีกแล้ววันนี้) สรุปว่าวันนี้เลยปล่อยโคมไปตั้งหกเจ็ดอัน 5555 (อันแรกๆยังเฟลๆ แต่อันหลังๆเริ่มโปร)
ความจริงในความดีมันก็มีเรื่องแย่ๆ เช่นสภาพไนท์ไลฟ์ที่ ...ก็อย่างที่รู้กันน่ะ ว่าน่าจะเป็นอย่างไร หรือความเห็นแก่ตัวของคนไทยบางคน ที่ไปเอาโคมฟรีมาหลอกขายนักท่องเที่ยวอันละร้อย! หรือเอาดอกไม้ไฟมาขายกลางบริเวณที่เค้าปล่อยโคมลอยกัน (เสียงดังหนวกหูสุดๆ แล้วปล่อยแบบไม่ดูเลยว่าจะยิงโดนคนที่อยู่บริเวณนั้นรึเปล่า) นอกจากนี้ตอนปล่อยก็ยังต้องคอยระวังโคมที่คนต้นหาดมันปล่อย (แล้วมีน้ำมันติดไฟหยดลงมา) โดนไปหนึ่งหยดตรงมือ ร้อนชิบ -*-
งานนี้ไม่ได้มีแค่โคมลอย แต่ยังมีจุดพลุฉลองอีก สรุปก็ได้ดูโชว์ดอกไม้ไฟไปอีกหนึ่งชุด บอกแล้ววันนี้แสนจะโชคดี... Perfect สุดๆ เป็นอีกวันที่ดีที่สุดในชีวิตจริงๆ :) ในบรรดาทริปภูเก็ตเนี่ย ถ้าไม่นับซีฟู้ดสุดอร่อยแล้วเนี่ย วันนี้สุดยอดที่สุดจริงๆ
คราวหน้าติดตามกับวันสุดท้าย (ก่อนกลับ) ที่ภูเก็ตครับพ้ม!
Well, there is a comment suggested that I should start writing blog in English in order to improve my writing skills. After keep procrastinate for a while, it's time to start! (However, the rest of Phuket blog series will remain in Thai.)
If there's any comment or correction, please please and please let me know -/\-
Well, first of all, I must say... it has been a week of dramas... I used to be a person who rarely watch the plays, now I'm a person who see both on-stage and back-stage, who knows... perhaps the next time I know, I might be pushed (or pulled!?) into a stage :P
This week is also a week of MUSIC. I've been to Fat Festival 7 on both Saturday and Sunday, CUMA on Monday, CU Music Festival on Tuesday and Heineken's Green Space (Moderndog) on Thursday.. Will talk about this later if I have time.
What I really want to write today is about the first meeting of the IE in service industry project team, Me, Jock, Mick and Waew (and Por who is not in the team but also joins the 'journey' today). This team is simply amazing, what a combination! Well, if you guys know how we are, you might get an idea.
We met at TCDC around 2pm, of course, we were not head directly to resource center and start doing our assignment, but went to see 'PRESENCE OF THE PAST', an exhibition displayed HRH Princess Sirivannavari's Paris fashion week collection. The exhibition was magnificent, and I really mean it!!, see it yourself!!
Finally it was working time, however it seems that we spent a lot of time on wastes, discussing what should be our service industry. This might be the first time in TCDC that I'm not that productive -_-
5.30... We all just agreed to leave Emporium and head for... dinner :P ... and it had to be An An Lao, Jock's Chinese restaurant in Thornglor road... Foods were great as always... Then we walked to J-Avenue, surveying Heineken's Green Space, get Mmm..Milk ice cream and headed to MOUSSES BERRY and had 4 marvelous cakes :D
What!? Haven't I told you that I'm working?
Alright, we continued our work after finished those cakes and finished around 1030 :P Hey, at least we had some progress, weren't we?
If there's any comment or correction, please please and please let me know -/\-
Well, first of all, I must say... it has been a week of dramas... I used to be a person who rarely watch the plays, now I'm a person who see both on-stage and back-stage, who knows... perhaps the next time I know, I might be pushed (or pulled!?) into a stage :P
This week is also a week of MUSIC. I've been to Fat Festival 7 on both Saturday and Sunday, CUMA on Monday, CU Music Festival on Tuesday and Heineken's Green Space (Moderndog) on Thursday.. Will talk about this later if I have time.
What I really want to write today is about the first meeting of the IE in service industry project team, Me, Jock, Mick and Waew (and Por who is not in the team but also joins the 'journey' today). This team is simply amazing, what a combination! Well, if you guys know how we are, you might get an idea.
We met at TCDC around 2pm, of course, we were not head directly to resource center and start doing our assignment, but went to see 'PRESENCE OF THE PAST', an exhibition displayed HRH Princess Sirivannavari's Paris fashion week collection. The exhibition was magnificent, and I really mean it!!, see it yourself!!
Finally it was working time, however it seems that we spent a lot of time on wastes, discussing what should be our service industry. This might be the first time in TCDC that I'm not that productive -_-
5.30... We all just agreed to leave Emporium and head for... dinner :P ... and it had to be An An Lao, Jock's Chinese restaurant in Thornglor road... Foods were great as always... Then we walked to J-Avenue, surveying Heineken's Green Space, get Mmm..Milk ice cream and headed to MOUSSES BERRY and had 4 marvelous cakes :D
What!? Haven't I told you that I'm working?
Alright, we continued our work after finished those cakes and finished around 1030 :P Hey, at least we had some progress, weren't we?
ก่อนจะเข้าเรื่องภูเก็ต อยากจะพูดถึงเรื่องราวในสัปดาห์ที่ผ่านมาก่อน
เป็นสัปดาห์ยุ่งๆ ที่ชีวิตมีหลากหลายรสชาติ
...ได้มีโอกาสนั่งคุยกับเพื่อนๆ เปิดหู เปิดตา เปิดใจ รับรู้เรื่องราวที่ไม่เคยรู้มาก่อน... แชร์เรื่องราว และความรู้สึก
จากเทอมที่ผ่านมาที่พวกเราห่างกันไปบ้าง หวังว่าสัปดาห์นี้คงเป็นจุดเริ่มต้นสิ่งดีๆ ที่ทำให้เรากลับมาผูกพันกันยิ่งกว่าเดิมนะ :)
มีหลายคนทีู่มีเรื่องไม่สบายใจ ยังไงก็ขอเป็นกำลังใจให้นะ สู้ๆเว้ย รักพวกมึงทุกคนจริงๆ
ส่วนเสาร์อาทิตย์ที่นี้ ชีวิตไปหมกตัวอยู่ที่แฟตเฟส เป็นปีที่ 6 ที่ได้ไป แต่เป็นปีแรกที่มานั่งขายของ และกินข้าวฟรี ^^ เด๋วคงมีเรื่องมาเล่าให้ฟัง แต่ขอจบคิวภูเก็ตก่อนละกัน แต่ยังไง สำหรับใครที่ได้อ่านวันนี้ ขอโปรโหมตวง Over Me ของไอ้พีทมันหน่อย งาน CU music fest รู้สึกจะมีบูทขายแผ่นกันด้วย ไปอุดหนุนกันได้นะ เข้าไปฟังแซมเปิ้ลเพลงพลางๆก่อนที่ Myspace ของวง
โอเค้ สำหรับทริปภูเก็ต ต้องขอบอกว่า โชคดีจริงๆที่มีคนอุปถัมภ์เต็มไปหมด ซึ่งนอกจากจะได้อุปถัมภ์บ้านและรถและเงินทุนจากปอแล้ว ยังได้ไอ้จ๊อคมาเป็นไกด์อีกด้วย ทริปนี้จึงไม่ทิ้งคอนเซป "ตะลุยกิน" เหมือนเดิม :P
แต่ก่อนจะออกไปหาของกินมื้อแรก ขอเก็บภาพเคหะสถานสุดหรูของเราก่อน
เอา่ล่ะ มื้อแรก (Brunch) เราไปกิน 'หมี่ฮกเกี้ยน' กันที่วงเวียนน้ำพุ อืมม บรรยายไงดี มันเป็นเส้นคล้ายๆเส้นยากิโซบะ ขอบอกว่าอร่อยโคตร พริกไทยที่นี่ป่นเอง กลิ่นหอมได้ใจมาก ถ้าจะกินต้องใส่พริกไทยเยอะๆๆๆๆๆๆๆๆๆ อร่อยสุดๆ
จบจากหมี่ฮกเกี้ยน เดินเลยไปอีกแยกนึงก็จะมีตรอกที่มีรถเข็นขายขนมอาโป๊ง (แม่สุณี) อยู่ อืม ชื่อประหลาดอีกแล้วใช่มะ 55 ขนมมันก็ทำมาจากแป้งเนี่ยแหละ (ไม่รู้แป้งอะไร) จะว่าคล้ายๆแป้งขนมเบื้องก็ได้นะ อืม มันหวานๆ แต่ว่าอันนี้เค้าทำเป็นชิ้นใหญ่ๆประมาณโรตี แล้วก็ม้วนรอบเดียว ซึ่งมันจะอร่อยมาก เพราะข้างนอกมันกรอบ แต่ตรงกลางๆที่แป้งมันหนา (เพราะทำกันบนกระทะอันเล็กๆ ไม่ได้ทำบนกระทะแบน) เรียกได้ว่า กรอบนอกนุ่มใน อร่อยจริงๆ
แล้วขบวนก็เคลื่อนต่อไปอีกนิด เพื่อกินขนม โอเอ๋ว ซึ่งจะว่าไปมันก็คล้ายๆวุ้นใสใส่น้ำแข็งใสราดน้ำแดงนั่นแหละ เพียงแต่ว่า ไอ้วุ้นเนี่ย มันนุ่มมมมมม มาก เค้าว่าทำมาจากเมล็ดโอเอ๋วกับอะไรสักอย่างจากกล้วย ขนมนี้ highly recommended เมื่อเพิ่งกินอาหารปักษ์ใต้สุดเผ็ดมา กินแล้วจะเหมือนขึ้นสวรรค์
หลังจากอิ่ม(กันสุดๆ)แล้ว ก็ไปซื้อเสบียงที่คาร์ฟูร์จังซีลอน กับนั่งรถทัวร์หาดต่างๆในภูเก็ตกัน ไล่ตั้งแต่หาดป่าตอง (ที่ไม่ประทับใจ เพราะมีแต่คนเดินตามพยายามขายของ ขายเครื่องเล่น แต่แอบฮาอย่างนึง คือคนขายพวกนั้นทักพวกเราเป็นภาษาเกาหลีว่ะ 55) ไล่ไปยัง กมลา กะรน กะตะ จนกระทั่งถึงหาดกะตะน้อย ซึ่งเป็นหาดที่ดูดีสุดแล้วล่ะ เพราะอยู่ในบริเวณของกะตะธานี ที่นี่เลยไม่ค่อยวุ่นวาย (แต่ก็ยังไม่วา่ยมีร่มกับเก้าอี้อาบแดดอยู่ดี)
หลังจากโดนแดดเผาเต็มที่ที่หาดกะตะน้อย ก็ได้เวลาพักเบรคชิลๆ ไปกินน้ำปั่นกันข้างทางที่เป็นเพิงยื่นออกไปดูวิวสบายใจ ก่อนจะเลยไปที่จุดชมวิว 3 หาด (กะตะน้อย กะตะ กะรน) แล้วไปจบที่แหลมพรหมเทพ ซึ่งก็งั้นๆอะ ต้นมะพร้าวแสนคลาสสิคในหนังสือท่องเที่ยว ถูกฟ้าผ่าเหลือแต่ตอ(สูงๆ) เต็มไปหมด
หลังจากนั้นก็ได้เวลา Dinner Time ที่รอคอย คราวนี้เก๋มาก นั่งเรือหางยาวไปกินกันบนกระชังเลย ใช้เวลาเดินทางสั้นๆ 3-4 นาที มื้อนี้อร่อยโคตร เพิ่งจะได้กิน 'หอยชักตีน' ก็คราวนี้แหละ วันนี้ซัดปูทะเลเต็มเหนี่ยว แกะจนปวดนิ้วกันไปข้าง นั่งแกะกินกันชั่วโมงครึ่งได้เลยมั้ง (ขออภัยถ้ารูปของกินมันดูไม่สวย เพราะมือเปื้อนจากการแกะปู ประกอบกับการต้องรีบถ่ายก่อนของกินในรูปจะหายไปหมด 55)
เป็นสัปดาห์ยุ่งๆ ที่ชีวิตมีหลากหลายรสชาติ
...ได้มีโอกาสนั่งคุยกับเพื่อนๆ เปิดหู เปิดตา เปิดใจ รับรู้เรื่องราวที่ไม่เคยรู้มาก่อน... แชร์เรื่องราว และความรู้สึก
จากเทอมที่ผ่านมาที่พวกเราห่างกันไปบ้าง หวังว่าสัปดาห์นี้คงเป็นจุดเริ่มต้นสิ่งดีๆ ที่ทำให้เรากลับมาผูกพันกันยิ่งกว่าเดิมนะ :)
มีหลายคนทีู่มีเรื่องไม่สบายใจ ยังไงก็ขอเป็นกำลังใจให้นะ สู้ๆเว้ย รักพวกมึงทุกคนจริงๆ
ส่วนเสาร์อาทิตย์ที่นี้ ชีวิตไปหมกตัวอยู่ที่แฟตเฟส เป็นปีที่ 6 ที่ได้ไป แต่เป็นปีแรกที่มานั่งขายของ และกินข้าวฟรี ^^ เด๋วคงมีเรื่องมาเล่าให้ฟัง แต่ขอจบคิวภูเก็ตก่อนละกัน แต่ยังไง สำหรับใครที่ได้อ่านวันนี้ ขอโปรโหมตวง Over Me ของไอ้พีทมันหน่อย งาน CU music fest รู้สึกจะมีบูทขายแผ่นกันด้วย ไปอุดหนุนกันได้นะ เข้าไปฟังแซมเปิ้ลเพลงพลางๆก่อนที่ Myspace ของวง
==========================
โอเค้ สำหรับทริปภูเก็ต ต้องขอบอกว่า โชคดีจริงๆที่มีคนอุปถัมภ์เต็มไปหมด ซึ่งนอกจากจะได้อุปถัมภ์บ้านและรถและเงินทุนจากปอแล้ว ยังได้ไอ้จ๊อคมาเป็นไกด์อีกด้วย ทริปนี้จึงไม่ทิ้งคอนเซป "ตะลุยกิน" เหมือนเดิม :P
แต่ก่อนจะออกไปหาของกินมื้อแรก ขอเก็บภาพเคหะสถานสุดหรูของเราก่อน
เอา่ล่ะ มื้อแรก (Brunch) เราไปกิน 'หมี่ฮกเกี้ยน' กันที่วงเวียนน้ำพุ อืมม บรรยายไงดี มันเป็นเส้นคล้ายๆเส้นยากิโซบะ ขอบอกว่าอร่อยโคตร พริกไทยที่นี่ป่นเอง กลิ่นหอมได้ใจมาก ถ้าจะกินต้องใส่พริกไทยเยอะๆๆๆๆๆๆๆๆๆ อร่อยสุดๆ
หมี่ฮกเกี้ยนโกยูร และ ขนมอาโป๊งแม่สุณี
จบจากหมี่ฮกเกี้ยน เดินเลยไปอีกแยกนึงก็จะมีตรอกที่มีรถเข็นขายขนมอาโป๊ง (แม่สุณี) อยู่ อืม ชื่อประหลาดอีกแล้วใช่มะ 55 ขนมมันก็ทำมาจากแป้งเนี่ยแหละ (ไม่รู้แป้งอะไร) จะว่าคล้ายๆแป้งขนมเบื้องก็ได้นะ อืม มันหวานๆ แต่ว่าอันนี้เค้าทำเป็นชิ้นใหญ่ๆประมาณโรตี แล้วก็ม้วนรอบเดียว ซึ่งมันจะอร่อยมาก เพราะข้างนอกมันกรอบ แต่ตรงกลางๆที่แป้งมันหนา (เพราะทำกันบนกระทะอันเล็กๆ ไม่ได้ทำบนกระทะแบน) เรียกได้ว่า กรอบนอกนุ่มใน อร่อยจริงๆ
แล้วขบวนก็เคลื่อนต่อไปอีกนิด เพื่อกินขนม โอเอ๋ว ซึ่งจะว่าไปมันก็คล้ายๆวุ้นใสใส่น้ำแข็งใสราดน้ำแดงนั่นแหละ เพียงแต่ว่า ไอ้วุ้นเนี่ย มันนุ่มมมมมม มาก เค้าว่าทำมาจากเมล็ดโอเอ๋วกับอะไรสักอย่างจากกล้วย ขนมนี้ highly recommended เมื่อเพิ่งกินอาหารปักษ์ใต้สุดเผ็ดมา กินแล้วจะเหมือนขึ้นสวรรค์
หลังจากอิ่ม(กันสุดๆ)แล้ว ก็ไปซื้อเสบียงที่คาร์ฟูร์จังซีลอน กับนั่งรถทัวร์หาดต่างๆในภูเก็ตกัน ไล่ตั้งแต่หาดป่าตอง (ที่ไม่ประทับใจ เพราะมีแต่คนเดินตามพยายามขายของ ขายเครื่องเล่น แต่แอบฮาอย่างนึง คือคนขายพวกนั้นทักพวกเราเป็นภาษาเกาหลีว่ะ 55) ไล่ไปยัง กมลา กะรน กะตะ จนกระทั่งถึงหาดกะตะน้อย ซึ่งเป็นหาดที่ดูดีสุดแล้วล่ะ เพราะอยู่ในบริเวณของกะตะธานี ที่นี่เลยไม่ค่อยวุ่นวาย (แต่ก็ยังไม่วา่ยมีร่มกับเก้าอี้อาบแดดอยู่ดี)
ซีนบังคับ ต้องมีชอตกระโดด
หลังจากโดนแดดเผาเต็มที่ที่หาดกะตะน้อย ก็ได้เวลาพักเบรคชิลๆ ไปกินน้ำปั่นกันข้างทางที่เป็นเพิงยื่นออกไปดูวิวสบายใจ ก่อนจะเลยไปที่จุดชมวิว 3 หาด (กะตะน้อย กะตะ กะรน) แล้วไปจบที่แหลมพรหมเทพ ซึ่งก็งั้นๆอะ ต้นมะพร้าวแสนคลาสสิคในหนังสือท่องเที่ยว ถูกฟ้าผ่าเหลือแต่ตอ(สูงๆ) เต็มไปหมด
วิวสวยๆ จากมุมต่างๆ
หลังจากนั้นก็ได้เวลา Dinner Time ที่รอคอย คราวนี้เก๋มาก นั่งเรือหางยาวไปกินกันบนกระชังเลย ใช้เวลาเดินทางสั้นๆ 3-4 นาที มื้อนี้อร่อยโคตร เพิ่งจะได้กิน 'หอยชักตีน' ก็คราวนี้แหละ วันนี้ซัดปูทะเลเต็มเหนี่ยว แกะจนปวดนิ้วกันไปข้าง นั่งแกะกินกันชั่วโมงครึ่งได้เลยมั้ง (ขออภัยถ้ารูปของกินมันดูไม่สวย เพราะมือเปื้อนจากการแกะปู ประกอบกับการต้องรีบถ่ายก่อนของกินในรูปจะหายไปหมด 55)
ซีฟู้ดบนกระชัง รับประกันความสด ^^
ฟ้าสวยๆ แต่ไม่ค่อยมีใครสน ก้มหน้าก้มตาแกะปูกันต่อไป
ปลาสองหน้า (หน้าหนึ่งทอดกระเทียม อีกหน้าราดพริก 55) VS ปู!!!!!!!!!!!!!!!!!!!
ก็ เป็นอันจบวันที่สอง วันนี้นอนเร็วหน่อยเพราะเก็บแรงไปเที่ยวเกาะไข่กันในวันที่สาม ขอบอกว่าวันที่สามเป็นสุดยอด Perfect Day มากๆ จะเป็นอย่างไร โปรดติดตามตอนต่อไปละกัลล
+ คำเตือน บล็อกต่อไปนี้ยาวมาก +"เฮ้ย จริงเหรอ!!!!" ป๊อป แวว โอม ร้องด้วยความแปลกใจระคนตื่นเต้น "เออ จริงสิวะ เนี่ย แกจะไปเมื่อไหร่จะได้จองรถให้"
+++++++++++++++++
เรื่องราวทั้งหมดเริ่มขึ้นในวันที่ 8 ตุลา ระหว่างนั่งรถกลับบ้าน หลังจากไปกินข้า่วเย็นชิลๆฮาๆกัน คลายเครียดประชดปิดเทอมเดือนตุลา ที่จะว่าไปแล้วมันเครียดยิ่งกว่าเปิดเทอม เพราะมีโปรเจคและงานมากมาย ที่ต้องปั่นส่งตลอดทั้งเดือน (สรุปว่าไม่มีการปิดเทอมเลยงั้นเหอะ)
อยู่ดีๆก็มีคนโพล่งขึ้นมาในรถเล่นๆ ทั้งๆที่รู้ว่าคงเป็นไปไม่ได้ " อยากไปภูเก็ตว่ะ "
แต่เรื่องราวมหัศจรรย์ก็เกิดขึ้น เมื่อปอบอกว่า ตอนนี้มีบ้านที่น้าทำขายอยู่ที่ภูเก็ต ถ้าจะไปช่วงนี้ก็พักได้ฟรี!!!
แล้วไม่ใช่บ้านธรรมดาซะด้วยสิ เป็นบ้านที่ตกแต่งแล้วเรียบร้อย สามห้องนอน สี่ห้องน้ำ + สระว่ายน้ำ!!!
+++++++++++++++++++++
คืนนั้นด้วยความคึกเต็มที่ เลย PR ส่งเมล์หาคนร่วมทริปอย่างเว่อร์สุดๆ เหมือนในภาพแรกนั่นแหละ ซึ่งผ่านไปสักพักก็กลับกลายเหมือนมีแต่เรื่องร้าย เพราะทุกคนดูเหมือนจะว่างไม่ตรงกันเลย ตอนแรกจะจัดสัปดาห์ 15-19 พย แต่ในที่สุดก็เปลี่ยนฟันธงไป 1-5 พย เพราะพวกเกท กี้ อุ้ย ยังพอช่วงนั้นได้ แต่ปรากฏว่าสุดท้ายจริงๆแล้ว ทั้งสามคนนั้นก็มีเหตุให้ไปไม่ไ้ด้อย่างน่าเสียดาย
หลังจากเปลี่ยนไปเปลี่ยนมา กล่อมไปกล่อมมา ก็มีคนไปกัน 9 คน ได้แก่ เรา เอก ติ๊ ปอง ปลาย แวว จ๊อค มิค และ คุณหนูปอ เจ้าของบ้าน ^^ ซึ่งจะว่าแร่ดก็ได้ เพราะบินกันไปหมดเลย เรา ปอง ปอ แลกไมล์บิน TG ส่วนที่เหลือก็บินนกแอร์ไป
+++++++++++++++++++++
1 พย : เนื่องจากคราวนี้ได้นั่ง TG เลยขอลอง Thai City Terminal จุดเช็คอินของการบินไทยสำหรับเครื่องที่บินออกจากดอนเมือง ที่สถานีรถใต้ดินลาดพร้าว ขอบอกว่า เวิร์คมากๆ ยัีงไม่ทันจะเข้าไปข้างในพี่ยามแกก็ลากกระเป๋าให้เราไป X-Ray แล้วยกไปที่จุดชั่งน้ำหนักให้เรียบร้อย เราก็ทำการเช็คอินไป ซึ่งเราก็จะได้ Boarding Pass พร้อมขึ้นเครื่องทันทีที่ถึงดอนเมือง (ส่วนกระเป๋าเราก็ไม่ต้องยุ่งอะไรอีกเลย เพราะพนักงานจะโหลดขึ้นรถ ลงรถ เอาเข้าเครื่องให้เรียบร้อย) พี่กราวนด์ที่นี่ก็บริการดีด้วย ขอชมครับ
ที่นั่ง และมุึมอินเตอร์เนตใน City Terminal
ที่บอกว่าเวิร์คมากๆเพราะนอกจากที่นี่จะมี Shuttle Bus ส่งไปที่ดอนเมืองฟรีแล้ว ที่นี่ยังมีพื้นที่นั่งรอที่จะเรียกว่าเป็นน้องๆ Lounge เลยก็ได้ พร้อม Internet Corner และน้ำผลไม้รวมฟรีจากร้าน Puff & Pie (ใครอยากกินอะไรเพิ่มก็ซื้อได้)
รถ shuttle คันใหญ่ นั่งสบายสุดๆ (ขาไปนั่งแค่เก้าคนเอง) ส่วนรูปขวานั่ง Cabin ใน AB6 ลายลูกกวาดสดใส ^^
เครื่องเรามันออกทุ่มครึ่ง รถออกจากสถานีตอนหกโมง เพราะฉะนั้นใครจะไปเช็คอินที่นี่ ก็เผื่อเวลาไว้สักสองชั่วโมงก่อนเครื่องออกละกัน ไม่ก็ลองโทรถามเจ้าหน้าที่ก็ได้
+++++++++++++++++++++
อาหารบนเครื่อง (เจอน้ำผลไม้รวมเป็นครั้งที่ 3 ของวัน -- ครั้งแรกตอนนั่งฟังบรรยายที่คณะ ครั้งที่สองที่ City Terminal ครั้งทีสามบนเครื่อง) / หลักฐานแสดงความดีเลย์
เนื่องจากตอนแรกแพลนไว้ว่าจะไปกินข้าวเย็นกันที่แหลมหิน (ชื่อนี้ป่าวอะ) แต่เนื่องจากนกแอร์มันดีเลย์ ถ้ารอแล้วไปพร้อมกันกว่าจะไปร้านก็คงปิดพอดี เลยเปลี่ยนแพลน โทรไปสั่งข้าว แล้วไปเอากลับมากิินที่บ้านแทน
ปรากฏว่าเหมือนถูกหวย เพราะนอกจากบ้านพัำก และรถในทริปนี้จะฟรีแล้ว น้าของปอยังให้งบกองกลางมาอีกก้อน(โต) ก้อนหนึ่ง มื้อนี้เลยสั่งสนองตัณหากันใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นกุ้งเผา ปูทะเลลวก กั้ง ทอดมันกุ้ง ไข่เจียวกุ้งสับ ยำหมึกไข่ ต้มยำทะเล ปลาทอดราดพริก ฯลฯ เปรมครับเปรม
หลังจากหิวกันท้องกิ่วในรถมานาน ในที่สุดก็มาถึงบ้านกันตอนห้าทุ่มครึ่ง ปรากฏว่าพอเดินเข้าไปในตัวบ้านที่เป็นรูปตัว "] " เท่านั้นแหละ ทุกคนร้อง "โอ้ววววววววววว" พร้อมกันโดยไม่ได้นัดหมาย เพราะสิ่งที่อยู่ตรงหน้ามันเปนแบบนี้นั่นเอง
หลังจากหายตะลึง ก็ได้เวลาโซ้ยซีฟู้ดดดด ตอนแรกนึกว่าสั่งเยอะไปจะกินไม่หมด แต่สุดท้ายก็หมดจนได้ 55 แฮปปี้กันสุดฤทธิ์ พร้อมนึกเสียดายแทนคนที่พลาดโอกาสมา (แต่แอบเยาะเย้ยในใจ กร๊าก)
ก่อนจะปิดท้ายคืนแรกของทริปมหัศจรรย์ ด้วยการโดดลงสระเล่นน้ำให้ชื่นใจ เอ๊ะบอกละยังว่าสระมีจากุชชี่เล็กๆด้วย!
พอไปถึงดอนเมืองก็เจอพรรคพวกที่เหลือ ก่อนแยกย้ายไปขึ้นเครื่อง ซึ่งเครื่องเราออกก่อนนกแอร์สักสิบนาทีได้ ไฟลท์ก็เรียบร้อยดี อาหารที่เสิร์ฟบนเครื่องก็ยำเซี่ยงไฮ้กุ้ง กับเยลลี่เต้าทึง นั่งได้สักชั่วโมงครึ่งก็ถึงภูเก็ต ปรากฏว่า... นกแอร์ของพวกที่เหลือทำพิษครับ เห็นป้ายบอกดีเลย์ไปชั่วโมงกว่า แล้วได้ข่าวว่าไฟลท์นี้กัปตันบินห่วยด้วย แทนที่ปกติมันจะบินแบบ / ---- \
พี่แกเล่นบินแบบขึ้นนนนนแล้วก็ลงงงงง ไม่มีช่วงราบๆเลย /\ บ่นปวดหูกันทุกคน ส่วนแอร์กว่าจะเข็นรถเข็นมาขายของเครื่องก็จะลงอยู่แล้วซะงั้น
พี่แกเล่นบินแบบขึ้นนนนนแล้วก็ลงงงงง ไม่มีช่วงราบๆเลย /\ บ่นปวดหูกันทุกคน ส่วนแอร์กว่าจะเข็นรถเข็นมาขายของเครื่องก็จะลงอยู่แล้วซะงั้น
อาหารบนเครื่อง (เจอน้ำผลไม้รวมเป็นครั้งที่ 3 ของวัน -- ครั้งแรกตอนนั่งฟังบรรยายที่คณะ ครั้งที่สองที่ City Terminal ครั้งทีสามบนเครื่อง) / หลักฐานแสดงความดีเลย์
เนื่องจากตอนแรกแพลนไว้ว่าจะไปกินข้าวเย็นกันที่แหลมหิน (ชื่อนี้ป่าวอะ) แต่เนื่องจากนกแอร์มันดีเลย์ ถ้ารอแล้วไปพร้อมกันกว่าจะไปร้านก็คงปิดพอดี เลยเปลี่ยนแพลน โทรไปสั่งข้าว แล้วไปเอากลับมากิินที่บ้านแทนปรากฏว่าเหมือนถูกหวย เพราะนอกจากบ้านพัำก และรถในทริปนี้จะฟรีแล้ว น้าของปอยังให้งบกองกลางมาอีกก้อน(โต) ก้อนหนึ่ง มื้อนี้เลยสั่งสนองตัณหากันใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นกุ้งเผา ปูทะเลลวก กั้ง ทอดมันกุ้ง ไข่เจียวกุ้งสับ ยำหมึกไข่ ต้มยำทะเล ปลาทอดราดพริก ฯลฯ เปรมครับเปรม
หลังจากหิวกันท้องกิ่วในรถมานาน ในที่สุดก็มาถึงบ้านกันตอนห้าทุ่มครึ่ง ปรากฏว่าพอเดินเข้าไปในตัวบ้านที่เป็นรูปตัว "] " เท่านั้นแหละ ทุกคนร้อง "โอ้ววววววววววว" พร้อมกันโดยไม่ได้นัดหมาย เพราะสิ่งที่อยู่ตรงหน้ามันเปนแบบนี้นั่นเอง
HEAVEN ON EARTH! ที่เห็นเป็นหลังๆนั่นคือห้องนอน มีสามห้อง เรียกว่าตื่นขึ้นมาก็เห็นสระน้ำอยู่ข้างหน้าเลย :)
หลังจากหายตะลึง ก็ได้เวลาโซ้ยซีฟู้ดดดด ตอนแรกนึกว่าสั่งเยอะไปจะกินไม่หมด แต่สุดท้ายก็หมดจนได้ 55 แฮปปี้กันสุดฤทธิ์ พร้อมนึกเสียดายแทนคนที่พลาดโอกาสมา (แต่แอบเยาะเย้ยในใจ กร๊าก)
ก่อนจะปิดท้ายคืนแรกของทริปมหัศจรรย์ ด้วยการโดดลงสระเล่นน้ำให้ชื่นใจ เอ๊ะบอกละยังว่าสระมีจากุชชี่เล็กๆด้วย!
คราวหน้ามาต่อกันกับวันที่สองของทริป :)
ภูเก็ต (Nov 07) 
{J} in Angkor Dec 06 (
{J} Work n' Travel USA 
{J} in UK (
ดูสนุกจริงๆครับ อยากไปกินร้านนั้นบ้างจัง