มาเก็บบล็อคดองเค็มก่อนจะกล่าวถึงทริปภูเก็ตที่เพิ่งจบไป (ไว้อัพคราวหน้า)
กลับมาที่งาน Tube SE Asia ใหม่อีกรอบ หลังจากเข้ามาในตัวงาน มองแป๊บเดียวก็เห็นบูธของ Bronx ตั้งอยู่แถวๆหน้าทางเข้างานเลย ตกแต่งในโทนดำเท่ห์ๆ
สำหรับบูธของ Bronx และ Abbey นั้นมีฝรั่งดูแลกันอยู่หลายคนได้ ทาง Bronx นั้นมี Mike, Chad กับ Scott ส่วนทาง Abbey มี Nelson คอยดูแล นอกจากนี้ยังมี Carolyn ที่รับผิดชอบด้าน PR โผล่มาเป็นระยะๆ ซึ่งแต่ละคนนี่มาจากคนละเมืองกันทั้งนั้น (Scott มาจาก UK) โหย แต่แบบ แต่งตัวกันดูโปรเป็น Business man กันมากๆ เล่นเอาเกร็งไปวันนึงเต็มๆเลยเรา
ปรากฏว่า ...อย่างที่คาด คนน้อยมักส์ๆ ไอ้คนเดินงานน่ะเยอะอยู่ แต่มาที่บูธนั่นอีกเรื่องหนึ่ง เนื่องจากงานนี้จริงๆแล้วมันเป็นงาน Wire และั Tube ซึ่งตัว Wire จะเด่นกว่า นอกจากนี้เครื่องของ Bronx ยังค่อนข้างราคาสูง และเฉพาะทาง คือเป็นเครื่องด้าน finishing line จำพวก เครื่องดัดตรง เครื่อง test ซึ่งส่วนมากจะใช้กับท่อที่ต้องการคุณภาพสูงมากๆ เช่นท่อน้ำมัน เราก็เดาอะนะว่าลูกค้าคนไทยส่วนมาก คงไม่ค่อยมีปัญญาซื้อยกเว้นที่จะเป็นบริษัทใหญ่ๆ อีกอย่างก็มีบริษัทอีกหลายประเทศ โดยเฉพาะเครื่องจักรจากจีน ที่น่าจะโดนใจผู้ประกอบการในไทยมากกว่า
ส่วน Abbey ที่ทำ solutions เครื่องจักรด้าน production line ซึ่งสามารถนำไปใช้ได้หลากหลายมากกว่า เช่นเครื่อง slit (ตัดคอยล์เหล็กเป็นแผ่นเล็กๆ) อะไรประมาณนี้ ลูกค้าก็เข้ามาถามเครื่องของ Abbey มากกว่า แต่ก็..อะนะ... ไอ้เครื่องพวกนี้เราก็ไม่รู้เรื่องอยุ่ดี
ก็ เอาลุ่ะสิเรา ฝรั่งเค้าก็ไม่เห็นจะ Brief ว่าให้เราทำอะไร แถมดูแล้วก็คงไม่ได้แปลภาษาไทยอะไรกันมากมายแน่ๆ (ซึ่งก็ดี ฮ่าๆ) สรุปก็คือ หางานให้ตัวเองทำโดยยืนฉีกยิ้มทักทายลูกค้า (55) ถามว่ามองหาอะไรอยู่ แล้วก็แนะนำชื่อโปรดักส์ของเรา ถ้าลูกค้าสนใจก็ค่อยส่งให้ฝรั่งเค้าอีกที ก็ Win-Win กันทั้งเราทั้งฝรั่ง เราก็มีงานทำ เพราะลูกค้า(พวกที่เก็บข้อมูลไปเรื่อยๆ)บางคนอาจกลัวฝรั่ง หรือไม่ก็ไมไ่ด้มีความสำคัญอะไรที่ฝรั่งเค้าจะต้องมาเสียเวลาคุยด้วยทุกคน
วันแรกผ่านไปแบบเรื่อยๆ ยืนซะขาแข็ง พอมาวันที่สองคนค่อยคึกคักหน่อย คราวนี้เปลี่ยนกลยุทธ์ใหม่มาอยู่ประจำโต๊ะ กางโบรชัวร์หลายๆอย่างเอาไว้ ลูกค้ัาส่วนมากก็จะเข้ามาหาที่โต๊ะเราเอง เราก็ give general information ให้เขาไป ใครสนใจค่อยส่งต่อให้ไปคุยกับฝรั่งเอาเอง วันนี้ทุกอย่างราบรื่นลื่นไหล เริ่มมีเรื่องคุยกันเองหน่อยละ
ส่วนวันที่สาม ฮามาก เพราะคืนวันที่สองฝรั่งเค้าไปปาร์ตี้ กลับกันสักตีสี่ได้มั้ง Mike มาถึงคนแรก ตาแดงมาเชียว ส่วน Scott กับ Chad นี่คงเดี้ยงไปเรียบร้อย Mike ก็ได้ทีส่ง SMS ไปกวนตีน ไอ้เราก็มันส์่ร่วมผสมโรงด้วยซะงั้นอะ กว่าสองคนนั้นจะมาก็สิบเอ็ดโมงกว่าได้ (สภาพดูไม่จืด 55) วันสุดท้ายลูกค้านี้น้อยมากๆ เงียบสุดๆ แต่กลายเป็นวันที่สบายสุดๆไม่เหมือนวันแรก เพราะวันนี้เทิร์นโปรและ ลูกค้งลูกค้าไม่สนใจ หันหน้าเข้าบูธมาเม้าท์กันอย่างเดียว 55
สรุปว่างานสามวันนี้ผ่านไปด้วยดี(มาก) รู้สึกว่าจะได้ทิปแรงสุดแล้วมั้งเมื่อเทียบกับคนอื่น (หุหุ) ได้ทิปมาเกือบเท่าเงินค่าจ้างทั้งสามวัน (มามุขเดิมคล้ายๆตอน work เลยแฮะ "I know it's not that much, but ..." แหม่ ไอ้ที่ยื่นให้นี่ก็เยอะแล้วล่ะ ^^) แถมยังได้ของแจก (thumb drive ลายบริษัท 1GB) ได้ของเหลือที่เขาไม่เก็บอย่าง Staples กับ กรรไกรไทเทเนียมมาอีกอัน (ไฮโซมากอะ) พร้อมกับคำชมมากมายจนตัวลอย 55 สรุปว่างานนี้คุ้มยิ่งกว่าคุ้ม
ก็ได้ประสบการณ์ดีๆไปอีกหนึ่งงาน จากที่ตอนแรกหวั่นๆก็กลายเป็นดีอย่างไม่น่าเชื่ออีกแล้ว ประกอบกับความเฮงไปเจอบูธดีด้วย (บูธของตั้มเป็นคนจีนไม่ได้ให้ทิปอะไรเลยแฮะ) เลยแฮปปี้ไป ^_^
จบและ คราวหน้ามาต่อเรื่องทริปภูเก็ต !
กลับมาที่งาน Tube SE Asia ใหม่อีกรอบ หลังจากเข้ามาในตัวงาน มองแป๊บเดียวก็เห็นบูธของ Bronx ตั้งอยู่แถวๆหน้าทางเข้างานเลย ตกแต่งในโทนดำเท่ห์ๆ
สำหรับบูธของ Bronx และ Abbey นั้นมีฝรั่งดูแลกันอยู่หลายคนได้ ทาง Bronx นั้นมี Mike, Chad กับ Scott ส่วนทาง Abbey มี Nelson คอยดูแล นอกจากนี้ยังมี Carolyn ที่รับผิดชอบด้าน PR โผล่มาเป็นระยะๆ ซึ่งแต่ละคนนี่มาจากคนละเมืองกันทั้งนั้น (Scott มาจาก UK) โหย แต่แบบ แต่งตัวกันดูโปรเป็น Business man กันมากๆ เล่นเอาเกร็งไปวันนึงเต็มๆเลยเรา
ปรากฏว่า ...อย่างที่คาด คนน้อยมักส์ๆ ไอ้คนเดินงานน่ะเยอะอยู่ แต่มาที่บูธนั่นอีกเรื่องหนึ่ง เนื่องจากงานนี้จริงๆแล้วมันเป็นงาน Wire และั Tube ซึ่งตัว Wire จะเด่นกว่า นอกจากนี้เครื่องของ Bronx ยังค่อนข้างราคาสูง และเฉพาะทาง คือเป็นเครื่องด้าน finishing line จำพวก เครื่องดัดตรง เครื่อง test ซึ่งส่วนมากจะใช้กับท่อที่ต้องการคุณภาพสูงมากๆ เช่นท่อน้ำมัน เราก็เดาอะนะว่าลูกค้าคนไทยส่วนมาก คงไม่ค่อยมีปัญญาซื้อยกเว้นที่จะเป็นบริษัทใหญ่ๆ อีกอย่างก็มีบริษัทอีกหลายประเทศ โดยเฉพาะเครื่องจักรจากจีน ที่น่าจะโดนใจผู้ประกอบการในไทยมากกว่า
ส่วน Abbey ที่ทำ solutions เครื่องจักรด้าน production line ซึ่งสามารถนำไปใช้ได้หลากหลายมากกว่า เช่นเครื่อง slit (ตัดคอยล์เหล็กเป็นแผ่นเล็กๆ) อะไรประมาณนี้ ลูกค้าก็เข้ามาถามเครื่องของ Abbey มากกว่า แต่ก็..อะนะ... ไอ้เครื่องพวกนี้เราก็ไม่รู้เรื่องอยุ่ดี
ก็ เอาลุ่ะสิเรา ฝรั่งเค้าก็ไม่เห็นจะ Brief ว่าให้เราทำอะไร แถมดูแล้วก็คงไม่ได้แปลภาษาไทยอะไรกันมากมายแน่ๆ (ซึ่งก็ดี ฮ่าๆ) สรุปก็คือ หางานให้ตัวเองทำโดยยืนฉีกยิ้มทักทายลูกค้า (55) ถามว่ามองหาอะไรอยู่ แล้วก็แนะนำชื่อโปรดักส์ของเรา ถ้าลูกค้าสนใจก็ค่อยส่งให้ฝรั่งเค้าอีกที ก็ Win-Win กันทั้งเราทั้งฝรั่ง เราก็มีงานทำ เพราะลูกค้า(พวกที่เก็บข้อมูลไปเรื่อยๆ)บางคนอาจกลัวฝรั่ง หรือไม่ก็ไมไ่ด้มีความสำคัญอะไรที่ฝรั่งเค้าจะต้องมาเสียเวลาคุยด้วยทุกคน
วันแรกผ่านไปแบบเรื่อยๆ ยืนซะขาแข็ง พอมาวันที่สองคนค่อยคึกคักหน่อย คราวนี้เปลี่ยนกลยุทธ์ใหม่มาอยู่ประจำโต๊ะ กางโบรชัวร์หลายๆอย่างเอาไว้ ลูกค้ัาส่วนมากก็จะเข้ามาหาที่โต๊ะเราเอง เราก็ give general information ให้เขาไป ใครสนใจค่อยส่งต่อให้ไปคุยกับฝรั่งเอาเอง วันนี้ทุกอย่างราบรื่นลื่นไหล เริ่มมีเรื่องคุยกันเองหน่อยละ
ส่วนวันที่สาม ฮามาก เพราะคืนวันที่สองฝรั่งเค้าไปปาร์ตี้ กลับกันสักตีสี่ได้มั้ง Mike มาถึงคนแรก ตาแดงมาเชียว ส่วน Scott กับ Chad นี่คงเดี้ยงไปเรียบร้อย Mike ก็ได้ทีส่ง SMS ไปกวนตีน ไอ้เราก็มันส์่ร่วมผสมโรงด้วยซะงั้นอะ กว่าสองคนนั้นจะมาก็สิบเอ็ดโมงกว่าได้ (สภาพดูไม่จืด 55) วันสุดท้ายลูกค้านี้น้อยมากๆ เงียบสุดๆ แต่กลายเป็นวันที่สบายสุดๆไม่เหมือนวันแรก เพราะวันนี้เทิร์นโปรและ ลูกค้งลูกค้าไม่สนใจ หันหน้าเข้าบูธมาเม้าท์กันอย่างเดียว 55
สรุปว่างานสามวันนี้ผ่านไปด้วยดี(มาก) รู้สึกว่าจะได้ทิปแรงสุดแล้วมั้งเมื่อเทียบกับคนอื่น (หุหุ) ได้ทิปมาเกือบเท่าเงินค่าจ้างทั้งสามวัน (มามุขเดิมคล้ายๆตอน work เลยแฮะ "I know it's not that much, but ..." แหม่ ไอ้ที่ยื่นให้นี่ก็เยอะแล้วล่ะ ^^) แถมยังได้ของแจก (thumb drive ลายบริษัท 1GB) ได้ของเหลือที่เขาไม่เก็บอย่าง Staples กับ กรรไกรไทเทเนียมมาอีกอัน (ไฮโซมากอะ) พร้อมกับคำชมมากมายจนตัวลอย 55 สรุปว่างานนี้คุ้มยิ่งกว่าคุ้ม
ก็ได้ประสบการณ์ดีๆไปอีกหนึ่งงาน จากที่ตอนแรกหวั่นๆก็กลายเป็นดีอย่างไม่น่าเชื่ออีกแล้ว ประกอบกับความเฮงไปเจอบูธดีด้วย (บูธของตั้มเป็นคนจีนไม่ได้ให้ทิปอะไรเลยแฮะ) เลยแฮปปี้ไป ^_^
จบและ คราวหน้ามาต่อเรื่องทริปภูเก็ต !
Post a Comment