เป็นทริปที่(กู)รอคอยมานาน
ได้ผู้ร่วมชะตาอีกสามราย คือแมซ(วิวัด) จ๋วง ปิ กับปฏิบัติการทริปใสๆหัวใจสี่ดวง เย้ -_-"
ความจริงไอ้โน้ตเกือบได้มาและ แต่พี่แกดันไปเที่ยวรูทเมื่อคืนก่อนซะงั้น เลยหมดปัญญาแซะออกจากเตียง
ทริปนี้ถือเป็นทริปกระเหรี่ยงครับ ไม่มีแม้แต่รถจะไป ดังนั้นเลยเหลือวิธีสองวิธีที่จะเดินทางไปอัมพวา คือ
1. รถ บขส
2. รถตู้
สำหรับขาไป เนื่องจากยังเกร็งๆ ไม่กล้านั่งรถตู้เพราะต้องไปต่อสองแถวที่แม่กลองอีกที เลยเลือกนั่ง บขส ไปแทน
ก็นั่งแทกซี่ไปสายใต้ใหม่ ขึ้นรถสาย 996 เป็นเงิน 74 บาท นั่งรถสภาพปุเรงๆ (มีระบบเพิ่มแรงสะเทือน น่ามหัศจรรย์มาก ทำให้รู้สึกเหมือนวิ่งออฟโร้ดได้ทั้งๆที่วิ่งบนถนนลาดยางอย่างดี) นั่งไปสักชั่วโมงครึ่งก็ถึงอัมพวา ก็เดินมึนๆ หาทางไปถึงที่พักของเราจนได้
"เรือนแพอัมพวา"
เป็นโฮมสเตย์เล็กๆ มีอยู่สี่ห้องด้วยกัน ด้านหน้่าคงเป็นร้านขายยาจีนเก่าๆ ก็ตกแต่งดัดแปลงเป็นโซนนั่งเล่นได้สวยมาก ทำเลก็ดี อยู่ริมคลอง(เช่นเดียวกับโฮมสเตย์อืนๆของที่นี่) และอยู่ใกล้ตลาดมากด้วย (ถูกใจเด็กหิวง่ายอย่างพวกเราเป็นอย่างยิ่ง)
เนื่องจากมากันสี่คนก็เลยพักอยู่ห้องเดียว ห้องก็สบายๆ มีแอร์ มีฟูกให้นอน
เข้าไปวางกระเป๋าปุ๊บก็ได้เวลาออกหากินมื้อกลางวันแล้ว :P ก็เดินย้อนกลับไปที่ตลาดน้ำ ห่างใกล้ๆประมาณร้อยเมตรเองมั้ง
สำหรับตลาดน้ำยามเย็นจะจัดเฉพาะ ศุกร์ - เสาร์ - อาทิตย์ เท่านั้น บ่ายๆอย่างงี้ยังมีเรือมาจอดขายได้ไม่เท่าไหร่ แต่แค่นี้ก็เล่นเอาแย่แล้ววว (กินกันไม่หยุดไม่หย่อน)
LUNCH : non-stop eating !
เรือขายกุ้งเผา - ปลาหมึกเผา : กุ้งที่อยู่ในจาน จานละร้อยบาทเอง
เราเริ่มด้วยทอดมันหัวปลี - วุ้นเส้นผัดไทยกุ้งสด - ยำส้มโอ - กุ้งเผา
อร่อยมากกกกกก ถูกด้วยอะ ผัดไทยกุ้งก็จานละยี่สิบ กุ้งเผานี่ก็ไข่เยอะมัก :D
ต่อด้วยของหวานที่ร้านกาญจนาพาณิชข้างๆสะพาน ขายพวกกาแฟโบราณ ชาเย็น ไปจนถึงของหวานอร่อยๆอย่าง เฉาก๊วยโบราณ หนมปังน้ำแดง กล้วยน้ำแดง มะละกอน้ำแดง หนมปังโอวัลติน ฯลฯ
ร้านนี้เก๋มาก มีโซนโปสการ์ด ซื้อแล้วก็มีปากกา เมจิก แสตมป์ให้เขียนส่งกลับไปที่บ้าน เขียนเสร็จก็หย่อนใส่ตู้หน้าร้านไปได้เลย !
แล้วเราก็สั่งแดงหางกาแฟ (น้ำแดงใส่กาแฟนิดๆ ให้มีรสขมติดที่ปลายลิ้น) ชานมที่อร่อยโคตรๆ และกาแฟเย็นสุดเข้มข้น พร้อมของหวานกล้วยน้ำแดง ขนมปังน้ำแดง ที่ให้น้ำแดงและนมข้นสะใจมาก และ เฉาก๊วยโบราณที่แปลกแหวกแนว เพราะให้ถ้วยเครื่องปรุง (น้ำเชื่อม น้ำแดง น้ำเขียว น้ำตาลทรายแดง) มาให้ใส่เติมความหวานเอาเอง ... ก็นั่งกินไป เพลงก็เพราะ ชิลสุดๆ ไอ้จ๋วงถึงกับอดใจไม่ไหวต้องโทรไปกรี๊ดกับแวว
ปล. ไอ้จ๋วงอดใจไม่ไหวสั่งก๋วยเตี๋ยวหมูเรือข้างๆร้านมากินอีก (สิบบาท) อร่อยสุดๆเหนมันว่างั้น
(มาที่นี่ก็อร่อยหมดทุกอย่างแหละ)
Leisure in the afternoon!
หลังจากกินกันจนยัดอะไรลงไปอีกไม่ได้แล้ว ก็ได้เวลาชิล เดินดูของ ผ่านพิพิธภัณฑ์เล็กๆของชุมชนที่คุณลุงคนหนึ่งทำขึ้นมาด้วยใจรัก แล้วเราก็มุ่งหน้าสู่ ฐณิชาฌ์ รีสอร์ท ของพี่ออฟ ซึ่งช่วยดูแลจัดการทริปของพวกเรา ถึงแม้จะไม่ได้พักที่นี่(เพราะเต็ม) ก็ตามเหอะ
ดูของที่ร้านธารามาร์ท
เพื่อเป็นการขอบคุณพี่ ก็โปรโหมตหน่อยละกันว่าห้องพักที่นี่ดีมาก เหมาะสำหรับครอบครัวที่จะไปเที่ยว เพราะว่ามีห้องน้ำส่วนตัวทุกห้อง (ซึ่งต่างจากโฮมสเตย์อื่นซึ่งจะแชร์ห้องน้ำกันครับ) ติดต่อได้ทางเว็บที่ให้ไว้หรือโทร 034 725 511
ที่นี่มีท่าน้ำให้นั่งชิลๆได้ บรรยากาศดีมาก น้ำใสๆเย็นๆแช่เท้าแล้วโคตรสบายเลย :) นั่งๆไปก็มีคุณยายพายเรือมาขายของบ้าง ข้างๆก็มีคนกำลังวาดภาพสีน้ำอยู่ ตรงข้ามก็มีบ้านของคุณลุงคนนึงนั่งเล่นอยู่กับน้องหมาสุดน่ารัก เลยเข้าไปคุย เล่นด้วย (ถามลุงว่าหมาชื่อไร ลุงบอกไม่รู้แต่คนอื่นเรียกว่าไอ้ดิ๊กดิ๊ก แต่มันก็ดุ๊กดิ๊กสมชื่ออะ ขี้เล่นมากกกก)
วันนี้ไว้แค่นี้ก่อนนะ ไว้คราวหน้ามาต่อกับทัวร์กินแหลกตอนเย็น!
หรือถ้าจะดูรูปเพิ่มเติม ไปได้ที่
http://www.flickr.com/photos/jaroz/sets/72157594248423633/
ครับ
ได้ผู้ร่วมชะตาอีกสามราย คือแมซ(วิวัด) จ๋วง ปิ กับปฏิบัติการทริปใสๆหัวใจสี่ดวง เย้ -_-"
ความจริงไอ้โน้ตเกือบได้มาและ แต่พี่แกดันไปเที่ยวรูทเมื่อคืนก่อนซะงั้น เลยหมดปัญญาแซะออกจากเตียง
ทริปนี้ถือเป็นทริปกระเหรี่ยงครับ ไม่มีแม้แต่รถจะไป ดังนั้นเลยเหลือวิธีสองวิธีที่จะเดินทางไปอัมพวา คือ
1. รถ บขส
2. รถตู้
สำหรับขาไป เนื่องจากยังเกร็งๆ ไม่กล้านั่งรถตู้เพราะต้องไปต่อสองแถวที่แม่กลองอีกที เลยเลือกนั่ง บขส ไปแทน
ก็นั่งแทกซี่ไปสายใต้ใหม่ ขึ้นรถสาย 996 เป็นเงิน 74 บาท นั่งรถสภาพปุเรงๆ (มีระบบเพิ่มแรงสะเทือน น่ามหัศจรรย์มาก ทำให้รู้สึกเหมือนวิ่งออฟโร้ดได้ทั้งๆที่วิ่งบนถนนลาดยางอย่างดี) นั่งไปสักชั่วโมงครึ่งก็ถึงอัมพวา ก็เดินมึนๆ หาทางไปถึงที่พักของเราจนได้
"เรือนแพอัมพวา"
เป็นโฮมสเตย์เล็กๆ มีอยู่สี่ห้องด้วยกัน ด้านหน้่าคงเป็นร้านขายยาจีนเก่าๆ ก็ตกแต่งดัดแปลงเป็นโซนนั่งเล่นได้สวยมาก ทำเลก็ดี อยู่ริมคลอง(เช่นเดียวกับโฮมสเตย์อืนๆของที่นี่) และอยู่ใกล้ตลาดมากด้วย (ถูกใจเด็กหิวง่ายอย่างพวกเราเป็นอย่างยิ่ง)
เนื่องจากมากันสี่คนก็เลยพักอยู่ห้องเดียว ห้องก็สบายๆ มีแอร์ มีฟูกให้นอน
เข้าไปวางกระเป๋าปุ๊บก็ได้เวลาออกหากินมื้อกลางวันแล้ว :P ก็เดินย้อนกลับไปที่ตลาดน้ำ ห่างใกล้ๆประมาณร้อยเมตรเองมั้ง
สำหรับตลาดน้ำยามเย็นจะจัดเฉพาะ ศุกร์ - เสาร์ - อาทิตย์ เท่านั้น บ่ายๆอย่างงี้ยังมีเรือมาจอดขายได้ไม่เท่าไหร่ แต่แค่นี้ก็เล่นเอาแย่แล้ววว (กินกันไม่หยุดไม่หย่อน)
LUNCH : non-stop eating !
เรือขายกุ้งเผา - ปลาหมึกเผา : กุ้งที่อยู่ในจาน จานละร้อยบาทเอง
เราเริ่มด้วยทอดมันหัวปลี - วุ้นเส้นผัดไทยกุ้งสด - ยำส้มโอ - กุ้งเผา
อร่อยมากกกกกก ถูกด้วยอะ ผัดไทยกุ้งก็จานละยี่สิบ กุ้งเผานี่ก็ไข่เยอะมัก :D
ต่อด้วยของหวานที่ร้านกาญจนาพาณิชข้างๆสะพาน ขายพวกกาแฟโบราณ ชาเย็น ไปจนถึงของหวานอร่อยๆอย่าง เฉาก๊วยโบราณ หนมปังน้ำแดง กล้วยน้ำแดง มะละกอน้ำแดง หนมปังโอวัลติน ฯลฯ
ร้านนี้เก๋มาก มีโซนโปสการ์ด ซื้อแล้วก็มีปากกา เมจิก แสตมป์ให้เขียนส่งกลับไปที่บ้าน เขียนเสร็จก็หย่อนใส่ตู้หน้าร้านไปได้เลย !
แล้วเราก็สั่งแดงหางกาแฟ (น้ำแดงใส่กาแฟนิดๆ ให้มีรสขมติดที่ปลายลิ้น) ชานมที่อร่อยโคตรๆ และกาแฟเย็นสุดเข้มข้น พร้อมของหวานกล้วยน้ำแดง ขนมปังน้ำแดง ที่ให้น้ำแดงและนมข้นสะใจมาก และ เฉาก๊วยโบราณที่แปลกแหวกแนว เพราะให้ถ้วยเครื่องปรุง (น้ำเชื่อม น้ำแดง น้ำเขียว น้ำตาลทรายแดง) มาให้ใส่เติมความหวานเอาเอง ... ก็นั่งกินไป เพลงก็เพราะ ชิลสุดๆ ไอ้จ๋วงถึงกับอดใจไม่ไหวต้องโทรไปกรี๊ดกับแวว
ปล. ไอ้จ๋วงอดใจไม่ไหวสั่งก๋วยเตี๋ยวหมูเรือข้างๆร้านมากินอีก (สิบบาท) อร่อยสุดๆเหนมันว่างั้น
(มาที่นี่ก็อร่อยหมดทุกอย่างแหละ)
Leisure in the afternoon!
หลังจากกินกันจนยัดอะไรลงไปอีกไม่ได้แล้ว ก็ได้เวลาชิล เดินดูของ ผ่านพิพิธภัณฑ์เล็กๆของชุมชนที่คุณลุงคนหนึ่งทำขึ้นมาด้วยใจรัก แล้วเราก็มุ่งหน้าสู่ ฐณิชาฌ์ รีสอร์ท ของพี่ออฟ ซึ่งช่วยดูแลจัดการทริปของพวกเรา ถึงแม้จะไม่ได้พักที่นี่(เพราะเต็ม) ก็ตามเหอะ
ดูของที่ร้านธารามาร์ท
เพื่อเป็นการขอบคุณพี่ ก็โปรโหมตหน่อยละกันว่าห้องพักที่นี่ดีมาก เหมาะสำหรับครอบครัวที่จะไปเที่ยว เพราะว่ามีห้องน้ำส่วนตัวทุกห้อง (ซึ่งต่างจากโฮมสเตย์อื่นซึ่งจะแชร์ห้องน้ำกันครับ) ติดต่อได้ทางเว็บที่ให้ไว้หรือโทร 034 725 511
ที่นี่มีท่าน้ำให้นั่งชิลๆได้ บรรยากาศดีมาก น้ำใสๆเย็นๆแช่เท้าแล้วโคตรสบายเลย :) นั่งๆไปก็มีคุณยายพายเรือมาขายของบ้าง ข้างๆก็มีคนกำลังวาดภาพสีน้ำอยู่ ตรงข้ามก็มีบ้านของคุณลุงคนนึงนั่งเล่นอยู่กับน้องหมาสุดน่ารัก เลยเข้าไปคุย เล่นด้วย (ถามลุงว่าหมาชื่อไร ลุงบอกไม่รู้แต่คนอื่นเรียกว่าไอ้ดิ๊กดิ๊ก แต่มันก็ดุ๊กดิ๊กสมชื่ออะ ขี้เล่นมากกกก)
วันนี้ไว้แค่นี้ก่อนนะ ไว้คราวหน้ามาต่อกับทัวร์กินแหลกตอนเย็น!
หรือถ้าจะดูรูปเพิ่มเติม ไปได้ที่
http://www.flickr.com/photos/jaroz/sets/72157594248423633/
ครับ
เฮ่อ กว่าจะได้มาอัพสักทีนี่ก็เหนื่อยเหมือนกันแฮะ
ความจริงมีเรื่องให้เขียนเยอะนะช่วงนี้ แต่ว่าไล่เก็บไม่ทันสักที วันนี้ขอเคลียร์นิวยอร์กทริปก่อนละกัน :D
บางคนอาจจะเบื่อบล็อกเที่ยวเมกา ก็ ขอโทดด้วยละกัน แต่ว่า จะเขียนไว้เนี่ยแหละ ให้ตัวเองอ่าน ;) เหมือนตอนไปอังกฤษ
ความเดิมจากตอนที่แล้ว
Pop in NYC Part I
Pop in NYC Part II
Only in Vegas
สำหรับรูปต่างๆตอนไป work ไล่ดูได้ที่
Work n' Travel' 06 gallery
(ตอนนี้ลงรูปนิวยอร์กไว้)
สำหรับวันที่สามในนิวยอร์ก หลังจากที่อพยพย้ายโรงแรมกันเรียบร้อยแล้ว ก็วางแผนจะไป woodbury outlet กัน แต่ไปๆมาๆแทกซี่ที่โทรเรียกเอาไว้ดันเบี้ยวไม่มาซะงั้นอะ ก็เลยเป็นอันพับแผนไป ออกไปกินข้าวร้านฟาสต์ฟู้ดของญี่ปุ่น ที่ขายข้าวหน้าเนื้อ ชื่อโยๆอะไรสักอย่าง รู้สึกร้านนี้จะมีหลายประเทศนะ แต่เมืองไทยยังไม่มา อร่อยดีเหมือนกัน
หลังกินข้าวก็๋ออกไปนั่งเรือดูเทพีเสรีภาพ แต่ว่า เราไม่ได้นั่งเรือไปลงที่เกาะ ellis (ซึ่งเป็นเกาะที่มีเทพีเสรีภาพอยู่) เพราะว่า ไม่ค่อยมีเวลา และขี้เกียจจ่ายตังค์ไปรอรอบเรือด้วย
เรือที่ขึ้นเป็นเรือเฟอร์รี่ข้ามฟากไปเกาะ staten ซึ่งขึ้นฟรี แต่ก็ได้ชมวิวพอๆกัน ก็ เป็นอันว่า ได้มานิวยอร์กจริงๆแล้วสินะ
Statue of Liberty
Manhattan Skyline
นั่งไปกลับรอบนึงก็เดินนนนๆๆๆ จาก south bank ขึ้นไปเรื่อยๆ ผ่าน wall street, trinity church และ WTC site ที่ซึ่งถึงแม้ผ่านไปห้าปีแล้ว ก็ยังไม่มีการก่อสร้างใดๆดำเนินการสักที ไม่รู้ทำไมเหมือนกัน
ตรงข้าม WTC site ก็เป็นที่ตั้งของห้าง century21 ซึ่งถือว่าเป็นห้างที่เอาของแบรนด์เนมมาลดกระหน่ำ ก็ เดินแล้วก็งั้นๆอะ ไม่ค่อยน่าสนใจเท่าไหร่
ต่อจาก WTC ก็นั่งรถไฟมาลงที่ SOHO ก็ งงๆว่ะ ร้านก็เยอะพอสมควรแต่ไม่รู้จะเริ่มเดินยังไงดี สุดท้ายก็ ไม่ได้อะไร (ฮา) เพราะรองเท้าที่ส่องๆดูก็ไม่ค่อยถูกใจเท่าไหร่ สุดท้ายเลยขอปลีกตัวไปชอปที่ Khiel's แทน กว่าจะเดินหาร้านได้เล่นเอามึนส์เหมือนกัน
มื้อเย็นวันนี้มาจบที่ applebee's ครับ โดนโขกเอาอย่างแรง หมดไปเกือบยี่สิบเหรียญ แพงสัดๆ ก็ อาหารก็โอนะ สไตล์ซิสเล่อร์แต่ทำออกมาดีกว่าหน่อย แต่แพงไปว่ะ ไม่ไหวจริงๆ ต้องทิปแม่งอีกด้วย เซรงง
กินเสร็จก็อพยพเคลื่อนขบวนไปที่ Empire State อีกรอบ โชคดีไปที่คืนนี่ไม่มีฝนตก เลยเห็นวิวได้ไกล ขอบอกว่าวิวสวยมากๆ เสียดายแต่ว่าถ่ายไม่ค่อยเห็น เพราะว่ามันมืดไปหน่อย ก็ อะนะ ของอย่างงี้ต้องไปเห็นด้วยตาตัวเอง
NYC Skyscraper by night
จบวันนี้ก็แยกย้ายกลับบ้าน ได้นอนเต็มอิ่มสักทีกับโรงแรมใหม่ สบายยยสุดๆ ก่อนจะตื่นมาพบกับเช้าวันที่ 4 เพื่อออกเดินทางไป woodbury common premium outlet ที่ใหญ่โคตรๆ มีตั้งแต่ diesel puma nike quicksilver energie miss sixty ยันพวก gucci ก็ยังมีเล้ย เอากับมันเดะ
แต่ว่า ไม่รู้ทำไม ไปคราวนี้แทบไม่ได้ของกลับมาเลยว่ะ แปลกๆ -_-"
กลับนิวยอร์กมาด้วยกระเป๋าที่ไมไ่ด้ฟีบเท่าไหร่สำหรับเรา แต่สำหรับไอ้เหวินยังมือหนักรูดปรื๊ดเช่นเคย และเนื่องด้วยชีพจรชอปที่ไม่ยอมหยุดได้ง่ายๆแม้จะปาเข้าไปสามสี่ทุ่มเข้าแล้ว เลยมาลงกันที่ 5th Avenue เข้า Apple Store กันอีกรอบ คราวนี้มากวาด iPod กลับบ้านกันถ้วนหน้า (ยกเว้นกู ฮ่าๆ)
จบไปสี่วันกับนิวยอร์ก สำหรับตัวเองรู้สึกยังไมไ่ด้ชอปซะเท่าไหร่ ด้วยเหตุนี้ เลยทำให้วันที่5 วันสุดท้ายที่จะเดินทางกลับตอนเที่ยง ต้องถ่อออกไป SOHO ตั้งแต่เช้าอีกรอบด้วยใจคับแค้น ก็มานิวยอร์กครั้งนี้ยังแทบไม่ได้ซื้อไรกลับเลยนี่หว่า 55
เหมือนฟ้าฝนเป็นใจ ตกลงมาไล่ให้กูต้องไปหลบฝนอยู่ที่ร้าน steve madden ซะงั้น ปรากฏว่า เหลือบไปเห็นรองเท้า... สวยว่ะ
สุดท้ายเลยถอยรองเท้ามาจนได้เรียบร้อย เย้
Mission Accomplished ปิดท้ายทริปนิวยอร์กด้วยประการฉะนี้
ความจริงมีเรื่องให้เขียนเยอะนะช่วงนี้ แต่ว่าไล่เก็บไม่ทันสักที วันนี้ขอเคลียร์นิวยอร์กทริปก่อนละกัน :D
บางคนอาจจะเบื่อบล็อกเที่ยวเมกา ก็ ขอโทดด้วยละกัน แต่ว่า จะเขียนไว้เนี่ยแหละ ให้ตัวเองอ่าน ;) เหมือนตอนไปอังกฤษ
ความเดิมจากตอนที่แล้ว
Pop in NYC Part I
Pop in NYC Part II
Only in Vegas
สำหรับรูปต่างๆตอนไป work ไล่ดูได้ที่
Work n' Travel' 06 gallery
(ตอนนี้ลงรูปนิวยอร์กไว้)
สำหรับวันที่สามในนิวยอร์ก หลังจากที่อพยพย้ายโรงแรมกันเรียบร้อยแล้ว ก็วางแผนจะไป woodbury outlet กัน แต่ไปๆมาๆแทกซี่ที่โทรเรียกเอาไว้ดันเบี้ยวไม่มาซะงั้นอะ ก็เลยเป็นอันพับแผนไป ออกไปกินข้าวร้านฟาสต์ฟู้ดของญี่ปุ่น ที่ขายข้าวหน้าเนื้อ ชื่อโยๆอะไรสักอย่าง รู้สึกร้านนี้จะมีหลายประเทศนะ แต่เมืองไทยยังไม่มา อร่อยดีเหมือนกัน
หลังกินข้าวก็๋ออกไปนั่งเรือดูเทพีเสรีภาพ แต่ว่า เราไม่ได้นั่งเรือไปลงที่เกาะ ellis (ซึ่งเป็นเกาะที่มีเทพีเสรีภาพอยู่) เพราะว่า ไม่ค่อยมีเวลา และขี้เกียจจ่ายตังค์ไปรอรอบเรือด้วย
เรือที่ขึ้นเป็นเรือเฟอร์รี่ข้ามฟากไปเกาะ staten ซึ่งขึ้นฟรี แต่ก็ได้ชมวิวพอๆกัน ก็ เป็นอันว่า ได้มานิวยอร์กจริงๆแล้วสินะ
Statue of Liberty
Manhattan Skyline
นั่งไปกลับรอบนึงก็เดินนนนๆๆๆ จาก south bank ขึ้นไปเรื่อยๆ ผ่าน wall street, trinity church และ WTC site ที่ซึ่งถึงแม้ผ่านไปห้าปีแล้ว ก็ยังไม่มีการก่อสร้างใดๆดำเนินการสักที ไม่รู้ทำไมเหมือนกัน
ตรงข้าม WTC site ก็เป็นที่ตั้งของห้าง century21 ซึ่งถือว่าเป็นห้างที่เอาของแบรนด์เนมมาลดกระหน่ำ ก็ เดินแล้วก็งั้นๆอะ ไม่ค่อยน่าสนใจเท่าไหร่
ต่อจาก WTC ก็นั่งรถไฟมาลงที่ SOHO ก็ งงๆว่ะ ร้านก็เยอะพอสมควรแต่ไม่รู้จะเริ่มเดินยังไงดี สุดท้ายก็ ไม่ได้อะไร (ฮา) เพราะรองเท้าที่ส่องๆดูก็ไม่ค่อยถูกใจเท่าไหร่ สุดท้ายเลยขอปลีกตัวไปชอปที่ Khiel's แทน กว่าจะเดินหาร้านได้เล่นเอามึนส์เหมือนกัน
มื้อเย็นวันนี้มาจบที่ applebee's ครับ โดนโขกเอาอย่างแรง หมดไปเกือบยี่สิบเหรียญ แพงสัดๆ ก็ อาหารก็โอนะ สไตล์ซิสเล่อร์แต่ทำออกมาดีกว่าหน่อย แต่แพงไปว่ะ ไม่ไหวจริงๆ ต้องทิปแม่งอีกด้วย เซรงง
กินเสร็จก็อพยพเคลื่อนขบวนไปที่ Empire State อีกรอบ โชคดีไปที่คืนนี่ไม่มีฝนตก เลยเห็นวิวได้ไกล ขอบอกว่าวิวสวยมากๆ เสียดายแต่ว่าถ่ายไม่ค่อยเห็น เพราะว่ามันมืดไปหน่อย ก็ อะนะ ของอย่างงี้ต้องไปเห็นด้วยตาตัวเอง
NYC Skyscraper by night
จบวันนี้ก็แยกย้ายกลับบ้าน ได้นอนเต็มอิ่มสักทีกับโรงแรมใหม่ สบายยยสุดๆ ก่อนจะตื่นมาพบกับเช้าวันที่ 4 เพื่อออกเดินทางไป woodbury common premium outlet ที่ใหญ่โคตรๆ มีตั้งแต่ diesel puma nike quicksilver energie miss sixty ยันพวก gucci ก็ยังมีเล้ย เอากับมันเดะ
แต่ว่า ไม่รู้ทำไม ไปคราวนี้แทบไม่ได้ของกลับมาเลยว่ะ แปลกๆ -_-"
กลับนิวยอร์กมาด้วยกระเป๋าที่ไมไ่ด้ฟีบเท่าไหร่สำหรับเรา แต่สำหรับไอ้เหวินยังมือหนักรูดปรื๊ดเช่นเคย และเนื่องด้วยชีพจรชอปที่ไม่ยอมหยุดได้ง่ายๆแม้จะปาเข้าไปสามสี่ทุ่มเข้าแล้ว เลยมาลงกันที่ 5th Avenue เข้า Apple Store กันอีกรอบ คราวนี้มากวาด iPod กลับบ้านกันถ้วนหน้า (ยกเว้นกู ฮ่าๆ)
จบไปสี่วันกับนิวยอร์ก สำหรับตัวเองรู้สึกยังไมไ่ด้ชอปซะเท่าไหร่ ด้วยเหตุนี้ เลยทำให้วันที่5 วันสุดท้ายที่จะเดินทางกลับตอนเที่ยง ต้องถ่อออกไป SOHO ตั้งแต่เช้าอีกรอบด้วยใจคับแค้น ก็มานิวยอร์กครั้งนี้ยังแทบไม่ได้ซื้อไรกลับเลยนี่หว่า 55
เหมือนฟ้าฝนเป็นใจ ตกลงมาไล่ให้กูต้องไปหลบฝนอยู่ที่ร้าน steve madden ซะงั้น ปรากฏว่า เหลือบไปเห็นรองเท้า... สวยว่ะ
สุดท้ายเลยถอยรองเท้ามาจนได้เรียบร้อย เย้
Mission Accomplished ปิดท้ายทริปนิวยอร์กด้วยประการฉะนี้
ได้อัพสักทีเนอะ สำหรับบล็อกเที่ยวเมกา
เนื่องจากว่ามีรูปที่อัพเยอะมากกกกกๆๆๆ เลยขอให้ไปดูที่นี่แทนละกันนะ เราโหลดไว้อีกหลายรูปที่ไม่ได้ลงในบล็อกนี้ http://www.flickr.com/photos/jaroz/sets/72157594235392615/
เวบ flickr นี้น่าตื่นเต้นมาก เข้าไปดูรูปเป็น slide show ก็ได้ แล้วก็ comment ภาพได้หลายอย่างมาก แบบแรกคือ comment ปกติท้ายภาพ
อีกแบบคือ ตอนคลิกดูรูปอะ เลือกปุ่ม add note ข้างบนของรูป มันจะให้เรา comment ตรงส่วนไหนก็ได้ของรูปได้เลย
(ถ้าไม่เข้าใจคลิกไปดูตรงนี้)
แต่ว่า จะคอมเม้นท์ได้ต้องสมัครสมาชิกก่อนอะ แต่ถ้าใครเปน member ของ yahoo! อยู่แล้วก็ log in ได้เลย
ใครที่มองๆหาเว็บเก็บภาพอยู่ โปรโหมตเว็บนี้ให้เลยละกัน เวิร์คมากๆ ฟังก์ชั่นแพรวพราวเหมือน GMail
อะ ต่อๆ เด๋วไม่ได้พูดถึง NY สักที
สำหรับความเดิมตอนที่แล้ว อ่านได้ที่นี่
http://jaroz.blogspot.com/2006/07/pop-in-nyc-part-1-i-hate-nyc.html
ความเดิมตอนที่แล้ว หลังจากที่หาที่พักได้สักที ก็ออกมาจาก apple store ก็เจอพาเหรดยิว ไม่รู้งานอะไรเหมือนกัน แล้วก็เดินลง 5th Ave. ไปเรื่อยๆ แล้วก็ได้เย้วกัน เพราะไอ้เหวินมองไปเห็นชอป Abercrombie & Fitch
ในที่สุดความฝันมันก็เป็นจริงสักที ได้เดินชอปอเบอร์ ขอบอกว่าชอปสุดยอดมากๆ ไม่ใช่เสื้ออย่างเดียวนะ แต่หมายถึง พนักงาน
เพราะหน้าตาพนักงานแต่ละคน สวยหล่อระดับนายแบบนางแบบทั้งนั้น (ทุกคนที่ไปชอปนี้มาล้วนการันตีถึงความสวยหล่อ จนถึงมีคำกล่าวว่า เข้าชอปไปดูพนักงานก็คุ้มแล้ว)
ตั้งแต่หน้าร้านเลย มีนางแบบใส่เสื้อกล้ามสีขาวบางๆ ยืนกันเป็นตับ กะพี่ล่ำนายแบบถอดเสื้อโชว์กล้ามให้สาวๆแอบกรี๊ดเงียบเล็กๆ (ไอ้เหวินมันไปอีกวัน บอกว่านายแบบอีกวันที่ไปหล่อกว่าอีก.... น่านนน ดูมัน)
ส่วนบรรยากาศข้างในก็ใช้ได้เลยว่ะ เปิดเพลงอย่างกะคลับแด๊นซ์ดีๆ ร้านก็สลัวๆได้ใจ เหล่าพนักงานระดับ model ทั้งหลายนอกจากจะยิ้มต้อนรับลูกค้า ว่างๆก็เต้นกันเอง เอากันเข้าไป (ทำงานร้านนี้น่าสนุกสาดดดดด งานก็ดูง่ายดีนะ ยืนหน้าร้านเฉยๆ)
เนื่องจากไม่มีใครกล้าด้านพอไปถ่ายรูป เลยไปหาๆใน flickr เนี่ยแหละ อารมณ์หน้าร้านมันก็ประมาณเนี้ยะ
...อืมมมม อ่านะ (แต่ขอบอกว่าข้างในร้านที่เข้าไปวันนั้นน่ารักกว่านี้อีกเยอะ @>_<@) ทำไมเมืองไทยไม่มีร้านอย่างงี้บ้างวะ
ต่อจากนั้นก็เดินลงถนนไปเรื่อยๆ ผ่านไปเข้าห้องน้ำที่ Trump Tower (ฮ่าๆ) ผ่านชอปหรูๆมากมายที่จะมีพี่รปภตัวควายๆ ใส่เฮ้ดโฟนที่เห็นตามหนังฮอลีวู้ด ไอ้ที่เป็นสายขดๆเหมือนสายโทรศัพท์ไปเกี่ยวที่หูไรเงี้ยะ
เดินไปเรื่อยๆ ไป St. Patrick Church, ผ่าน rockefeller แวะไปกินแมคแถวนั้น ปรากฏว่าไปเจอพวกที่ทำงานในดันกิ้น, แมคที่ Ocean City เหมือนกันซะงั้น โลกกลมสัดๆ แยกกันเที่ยวไมไ่ด้คุยไรเลยนะแต่ก็ไปเจอซะงั้น ดีจิง แล้วก็เดินต่อๆๆๆ ไปดู grand central station หรือสถานีรถไฟแบบหัวลำโพงบ้านเรานั่นแหละ ที่นี่ใหญ่อลังการใช้ได้ หลังคาเป็นรูปดาวต่างๆ
แล้วก็ออกมาถ่ายรูปกะตึก crysler เดินผ่าน NY public library ที่เป็นฉากใน the day after tomorrow นั่นแหละ แล้วก็ไปเจอพวกไอ้แดนที่ตามมาทีหลังที่ Times Square แสงสีเยอะสุดๆ มองไปที่ไหนก็มีแต่ป้ายไฟ คนเยอะมากๆ สุดๆอะ เจ๋งดี
แวะซื้อของที่ระลึก แวะ hershey shop ก่อนจะจบมื้อเย็นที่... แมค อีกแล้วว แต่แมคสาขาบรอดเวย์อันนี้เจ๋งสัดๆ ติดไฟอย่างกับโรงละคร ข้างในมีจอพลาสม่าเป็นสิบๆ (เมนูแทนที่จะเปนป้ายไฟก็เป็นจอพลาสม่าหมด)
กินเสร็จก็เคลื่อนพลฝ่ารถใต้ดินสุดเหม็นอับไปที่ Empire State Tower ปรากฏว่าต่อแถวอันยาวเยียดเป็นชั่วโมง ฝนก็ดันตกซะงั้น โชคดีที่มันเก็บบัตรได้ก็เลยจะไปดูวันหลังแทน ตกค่ำก็ไปจบมื้อดึกอีกที่... แมคเจ้าเดิม (สิ้นคิดจิงๆ) ก่อนจะกลับไปที่โฮสเทลสุดเน่า
วันต่อมาก็ได้ฤกษ์ ย้ายโรงแรมครับ เคลียร์บัญชีกะโฮสเทลเสร็จ ก็ย้ายไปทีโรงแรมใหม่ที่แยกกันจองไว้สองที่ ของเราไปอยู่ที่ herald sq. hotel กะกาย ยุ้ย เหวิน พู่ เหมี่ยว อะฮ่าาา รวมหกคน แต่พักห้องสี่คนนั่นเอง ปรากฏว่าใช้บัตร isic ลดได้อีก หารไปหารมาจ่ายมากกว่าตอนอยู่โฮสเทลคืนละไม่ถึงห้าเหรียญ คุ้มสัดๆ
ทางเข้าโรงแรมที่หรูมักๆ
อ่า เขียนแค่นี้ก่อนละกันเดี๋ยวจะขี้เกียจอ่าน แล้วคราวหน้ามาต่อกับบล็อกภาคสามครับ
บล็อกอันนี้มาจากการเห่อ widget blogger ใน mac อะ
เปนโปรแกรมเล็กๆเอาไว้โพสต์บล็อกขำๆ
ไม่มีอะไรมาก แค่จะบอกว่าช่วงนี้เบื่อๆ ไร้สาระ
ตื่นสายๆ กินจุ่มแซ่บ นอนกลางวัน ออกไปว่ายน้ำ กินข้าว เดินสวนลุมไนท์
เปนครั้งแรกที่ได้เดินสวนลุมไนท์จริงๆจังๆ เพราะที่ผ่านมาก็เปนทางผ่านระหว่างไป bec tero hall กะไปกินข้าว
ปรากฏว่า ... แทนที่จะได้เสื้อ ได้หมอนอิงกะพรมเช็ดเท้ามาซะงั้น ก็เสื้อผู้ชายมันไม่ค่อยมีอะ (หรือมีก็ไม่ถูกใจ ไม่ก็ไม่เห็น) แต่เสื้อผู้หญิงนี่เยอะมาก สวยๆทั้งนั้นเลย ดีกว่าเจเจเยอะ สรุปว่า สำหรับผู้หญิง มาเดินที่นี่คงถูกใจอะ ที่สำคัญ หน้าตาคนที่มาเดินก็ดูดีตามเกรดเสื้อผ้าซะด้วย (แต่ส่วนมากมากะแฟนซะงั้น)
ปล รู้สึกโปรแกรมนี้จะไม่เวิร์ค ใช้ไดแต่ภาษาอังกิดชัวร์ โพสต์แล้วไม่ติด ต้องมาแก้ทีหลังซะงั้น -_-
เปนโปรแกรมเล็กๆเอาไว้โพสต์บล็อกขำๆ
ไม่มีอะไรมาก แค่จะบอกว่าช่วงนี้เบื่อๆ ไร้สาระ
ตื่นสายๆ กินจุ่มแซ่บ นอนกลางวัน ออกไปว่ายน้ำ กินข้าว เดินสวนลุมไนท์
เปนครั้งแรกที่ได้เดินสวนลุมไนท์จริงๆจังๆ เพราะที่ผ่านมาก็เปนทางผ่านระหว่างไป bec tero hall กะไปกินข้าว
ปรากฏว่า ... แทนที่จะได้เสื้อ ได้หมอนอิงกะพรมเช็ดเท้ามาซะงั้น ก็เสื้อผู้ชายมันไม่ค่อยมีอะ (หรือมีก็ไม่ถูกใจ ไม่ก็ไม่เห็น) แต่เสื้อผู้หญิงนี่เยอะมาก สวยๆทั้งนั้นเลย ดีกว่าเจเจเยอะ สรุปว่า สำหรับผู้หญิง มาเดินที่นี่คงถูกใจอะ ที่สำคัญ หน้าตาคนที่มาเดินก็ดูดีตามเกรดเสื้อผ้าซะด้วย (แต่ส่วนมากมากะแฟนซะงั้น)
ปล รู้สึกโปรแกรมนี้จะไม่เวิร์ค ใช้ไดแต่ภาษาอังกิดชัวร์ โพสต์แล้วไม่ติด ต้องมาแก้ทีหลังซะงั้น -_-
ประกาศ : หากใครผู้ใดต้องการนัดไปเที่ยว กินข้าว หรืออะไรก็ตามแต่ อย่าเพิ่งชวนกูจนกระทั่งคนอื่นคอนเฟิร์มกันหมดทุกคนแล้ว มิฉะนั้นทริปของท่านจะมีอันเป็น(ไม่ได้)ไป
ความซวยของกูเริ่มมีเค้าลางตั้งแต่ศุกร์ที่แล้ว
อุตส่าห์แพลนกันดิบดีว่าจะไปเดินสวนลุมไนท์ ปรากดว่า... ฝนตกครับ เปนอันล่มไป
พุธนี้จะลากเพื่อนไปตีแบด ก็ปรากฏว่ามีประชุม co-op ของภาค เลยเลื่อนไป ปรากฏว่า... พอถึงวันพุธจริงๆ ประชุมมันดัน cancel (ซะงั้น)
เมื่อวาน... จะพาสายไปเลี้ยงข้าว ตอนเช้าไอ้น้องกิดหน้าเมา(ปีสอง)โทรมาบอกว่า ต้องไปวัดแถวเยาวราช วิชา bhuddism ไรของมันสักอย่างตอนทุ่มนึง
สำหรับเพื่อนกลุ่มเวิ้ค อุตส่าห์คุยกะเหวินกะเต้ซะเรียบร้อย เจอกันศุกร์หน้าละกัน เหนว่างๆ เลยโทรไปหานิกให้จัดรายการมาเลยจะไปไหน เพราะถ้านิกแบงค์ฝนไปได้พวกเราก็ต้องไปได้ ปรากฏว่า โทรไป... "อ่า ป๊อปเหรอ เอ่อ เราไม่แน่ใจอะว่าศุกร์นั้นเราจะไปทะเลป่าว " -*-
เพื่อนกลุ่มอังกฤษ อื้มมม ออยนัดไว้เจอกันอังคารหน้า วันนี้โทรไปรู้สึกว่ายุ้่ยจะไม่สะดวก ก็มีอันต้องเลื่อนไป (วันพุธ ขอให้ได้เฮอะ)
ทริปกรุ๊ปครับทริปกรุ๊ป น้อง 89 จัดมาซะซ้อนวันดูละครนิเทศได้อย่างเหมาะเจาะเป็นที่สุด (ทริป 8-10 กย ละคร 9 กย) อุตส่าห์ไปโวยวายว่าใกล้สอบ พี่ปีสามไปไมไ่ด้เยอะนะ เลื่อนไปเทอมหน้าเฮอะ (เมื่อวานเลี้ยงสายไอ้เนสก็บอกว่าเนี่ย พี่ สงสัยอาจจะเลื่อนอีกแล้วมั้ง) ปรากฏว่าวันนี้เจอน้องบีน ' พี่ป๊อปขา ตกลงทริป จัด 8-10 กย เหมือนเดิมนะคะ เพราะพี่แดนบอกว่าปีสามไปได้) แส่ดสสแดนนน กูอุตส่าห์ไปโวยวายยยย ซ้อนกันงีั้กูก็ต้องเลือกอีกและ
บางแสนครับบางแสน ไอ้อุ้ยไอ้ขวันจะนัดกลุ่มไปเที่ยวทะเลบางแสนกัน อาทิตย์ - จันทร์นี้ ก็เพิ่งจะได้รับแจ้งข่าวพับแผนไปหมาดๆ เมื่อครึ่งชั่วโมงที่แล้วนั่นเงอ
ส่วนเมื่อคืน นั่งแชทกับจ๋วง ตื่นเต้นกันใหญ่ จะไปเที่ยวอัมพวากัน ไปกันเล้ยยย 26-27 นี้ ดีใจสุดๆเพราะได้เพื่อนที่อยากไปจนเนื้อเต้นอีกคนสักที ปรากฏว่า วันนี้เพิ่งนึกได้ ว่า กูติดทริป plant for better life นี่หว่า แส่ดสสส (ก็เลยเลื่อนขึ้นเปน19-20 แทน กำลังรวบรวมคนอยู่ ใครสนใจถามมาได้เน่อ)
เฮ่อ นั่นแหละ วิบากกรรมกู
ความซวยของกูเริ่มมีเค้าลางตั้งแต่ศุกร์ที่แล้ว
อุตส่าห์แพลนกันดิบดีว่าจะไปเดินสวนลุมไนท์ ปรากดว่า... ฝนตกครับ เปนอันล่มไป
พุธนี้จะลากเพื่อนไปตีแบด ก็ปรากฏว่ามีประชุม co-op ของภาค เลยเลื่อนไป ปรากฏว่า... พอถึงวันพุธจริงๆ ประชุมมันดัน cancel (ซะงั้น)
เมื่อวาน... จะพาสายไปเลี้ยงข้าว ตอนเช้าไอ้น้องกิดหน้าเมา(ปีสอง)โทรมาบอกว่า ต้องไปวัดแถวเยาวราช วิชา bhuddism ไรของมันสักอย่างตอนทุ่มนึง
สำหรับเพื่อนกลุ่มเวิ้ค อุตส่าห์คุยกะเหวินกะเต้ซะเรียบร้อย เจอกันศุกร์หน้าละกัน เหนว่างๆ เลยโทรไปหานิกให้จัดรายการมาเลยจะไปไหน เพราะถ้านิกแบงค์ฝนไปได้พวกเราก็ต้องไปได้ ปรากฏว่า โทรไป... "อ่า ป๊อปเหรอ เอ่อ เราไม่แน่ใจอะว่าศุกร์นั้นเราจะไปทะเลป่าว " -*-
เพื่อนกลุ่มอังกฤษ อื้มมม ออยนัดไว้เจอกันอังคารหน้า วันนี้โทรไปรู้สึกว่ายุ้่ยจะไม่สะดวก ก็มีอันต้องเลื่อนไป (วันพุธ ขอให้ได้เฮอะ)
ทริปกรุ๊ปครับทริปกรุ๊ป น้อง 89 จัดมาซะซ้อนวันดูละครนิเทศได้อย่างเหมาะเจาะเป็นที่สุด (ทริป 8-10 กย ละคร 9 กย) อุตส่าห์ไปโวยวายว่าใกล้สอบ พี่ปีสามไปไมไ่ด้เยอะนะ เลื่อนไปเทอมหน้าเฮอะ (เมื่อวานเลี้ยงสายไอ้เนสก็บอกว่าเนี่ย พี่ สงสัยอาจจะเลื่อนอีกแล้วมั้ง) ปรากฏว่าวันนี้เจอน้องบีน ' พี่ป๊อปขา ตกลงทริป จัด 8-10 กย เหมือนเดิมนะคะ เพราะพี่แดนบอกว่าปีสามไปได้) แส่ดสสแดนนน กูอุตส่าห์ไปโวยวายยยย ซ้อนกันงีั้กูก็ต้องเลือกอีกและ
บางแสนครับบางแสน ไอ้อุ้ยไอ้ขวันจะนัดกลุ่มไปเที่ยวทะเลบางแสนกัน อาทิตย์ - จันทร์นี้ ก็เพิ่งจะได้รับแจ้งข่าวพับแผนไปหมาดๆ เมื่อครึ่งชั่วโมงที่แล้วนั่นเงอ
ส่วนเมื่อคืน นั่งแชทกับจ๋วง ตื่นเต้นกันใหญ่ จะไปเที่ยวอัมพวากัน ไปกันเล้ยยย 26-27 นี้ ดีใจสุดๆเพราะได้เพื่อนที่อยากไปจนเนื้อเต้นอีกคนสักที ปรากฏว่า วันนี้เพิ่งนึกได้ ว่า กูติดทริป plant for better life นี่หว่า แส่ดสสส (ก็เลยเลื่อนขึ้นเปน19-20 แทน กำลังรวบรวมคนอยู่ ใครสนใจถามมาได้เน่อ)
เฮ่อ นั่นแหละ วิบากกรรมกู
เออ เข้ามาอ่านตอนสอบ...
อิจฉาเว้ย
ทำเอาอยากไปอีกหลายๆรอบเลยเว้ย
สอบเสร็จๆ ไปกันอีกเห๊อะ
ฮ่าๆ
อยากรับประทานนนนน ผัดไทย กะ กุ้งอบวุ้นเส้นนนนนน
คิดถึงอาหารไทยวุ้ย