ห่างหายไปจาก Blog มานาน ขอกลับมาอัพเดทของกินใน HK หน่อยนะครับ สำหรับพิกัดร้านโดยละเอียดเมล์มาถามละกัน จริงๆเก็บไว้ใน Google Map เรียบร้อยและ :P
1. ร้านเด็ด - โจ๊ก
ยังยกให้ร้าน โจ๊กปู ที่ มาเก๊า เหมือนเคย เพราะกินขาดด้วยกลิ่นหอมจากปูตัวเล็กๆ กลมกล่อมสุดๆ!! (แต่คราวนี้ไม่ได้แวะไปมาเก๊า.. เศร้าเลย)
7. เก็บตก - ชูครีม!!
1. ร้านเด็ด - โจ๊ก
ยังยกให้ร้าน โจ๊กปู ที่ มาเก๊า เหมือนเคย เพราะกินขาดด้วยกลิ่นหอมจากปูตัวเล็กๆ กลมกล่อมสุดๆ!! (แต่คราวนี้ไม่ได้แวะไปมาเก๊า.. เศร้าเลย)
2. ร้านเด็ด - อาหารจีน (Contemporary)
ติ่มซำสมัยใหม่ ปนกลิ่นไอฟิวชั่นนิดส์ๆ กับร้าน Cuisine Cuisine บนตึก ifc ที่หลังจากบังเอิญพลัดหลงเข้าไปกินปีที่แล้ว ก็ได้ Michelin Star (1 star) ซะงั้น (เห็นมั้ยว่า sense ดี) มาปีนี้ด้วยความที่ฮอตฮิตขึ้นมามาก เลยเต็มตลอด (เศร้าไป) คราวหน้าคงต้องโทรจองซะแล้ว เฮ้อออ
3. ร้านเด็ด - อาหารจีน
นิวเอนทรี่คราวนี้ เป็นร้านที่ตั้งใจจะไปกินคราวที่แล้ว ...แต่อดกินเพราะยาวเกิน หวยเลยไปออกที่ Cuisine Cuisine... คราวนี้กลับกัน ตั้งใจจะไปกิน Cuisine Cuisine แต่ดันเต็ม เลยได้มากินที่ Lei Garden แทน (ฮา)
จริงๆแล้ว Lei Garden มีอยู่หลายสาขา แต่ที่พลัดหลงเข้าไปชิมอยู่ที่ตึก ifc (อีกแล้ว) ตอนสั่งก็แอบมั่วๆแต่ปรากฏว่าอร่อยทุกอย่างจริงๆ โดยเฉพาะซุปตุ๋นยาจีนที่หอมมมมสุดๆ (แต่ราคาก็แรงงง พอๆกัน) ห่านย่างที่นี่ก็เนื้อแน่น หอมกลิ่นย่างกำลังดี ส่วนติ่มซำก็ไร้ที่ติเช่นเดียวกัน
4. ร้านเด็ด - อาหารจีน (แบบง่ายๆ)
ร้าน Macau Restaurant แถว TST เป็นร้านเดียวในทริปนี้ที่กินซ้ำกับทริปที่แล้ว ซึ่งคราวนี้ก็ยังคงความประทับใจกับความอร่อยไว้เหมือนเดิม
5. ร้านเด็ด - ซีฟู้ด
ร้านนี้ได้รับความอนุเคราะห์มาจากพี่บอล บอกข้อมูลมาเยอะมากกกก "ไปกินให้ได้นะ ร้านก๋ำซั่น แถวๆโรงแรม Evergreen"
... แล้วตกลงมันร้านไหนครับเพ่ -*-
สุดท้ายก็ได้อากู๋ Google ช่วยชีวิต นี่ถ้าไม่ได้พิกัดว่าแถวๆโรงแรม Evergreen คง Search ไม่เจอแน่ ชื่อจริงๆของร้านนี้คือ Kam Shan Seafood Restaurant อยู่แถว Temple Street
วันแรกที่ไปร้านนี้เป็นคืนวันศุกร์ ปรากฏว่า.. ทั้งๆที่แถบนั้นมีร้านอาหารซีฟู้ดเยอะมาก แต่ร้านนี้เป็นร้านเดียวที่คนต่อคิวล้นออกมานอกร้าน... เลยอดกินไปตามระเบียบ วันเสาร์เลยแก้ตัวไปใหม่ พร้อมความหวังริบหรี่ว่าคงไม่ได้กินแน่ๆ แล้วก็ปรากฏว่าก็ยังมีคิวหนาแน่นเช่นเดิม แต่ยังโชคดีที่คิวไม่ยาวนัก (ประมาณครึ่งชั่วโมง) เลยมีโอกาสได้ไปพิสูจน์ความอร่อยกัน
ร้านนี้เป็นอีกร้านที่ความรู้ภาษาอังกฤษไร้ประโยชน์อีกร้านหนึ่ง ดีที่คุณน้าพอสื่อสารเป็นคำๆได้ แล้วก็ไปจิ้มๆหน้าตูซีฟู้ดหน้าร้าน ส่วนจะทำออกมายังไงนั้นก็ลุ้นเอาว่าลุงรับออเดอร์แกจะสั่งอะไรให้
ผลออกมาว่า... อร่อยยยยยยยยยยย (แน่น้อนนน ไม่งั้นไม่ได้มาอยุ๋ในบล็อกนี้หรอก 55) ที่เด็ดๆวันนั้นก็ ไก่แช่เหล้า เนื้อแน่น กึ๋นกรอบอร่อย แล้วก็ หอยตลับผัดพริกเผา+เต้าซี่ กับหอยหลอดที่ทำออกมาแบบเดียวกัน (หอยหลอดที่นั่นตัวใหญ่จริงๆ สะจายย) ปลานึ่งซีอิ้วก็สด แน่น ประทับใจเช่นเดียวกัน ส่วนกุ้ง กั้ง ปู ไมไ่ด้สั่ง เนื่องจากขี้เกียจแกะ ประกอบกับกับเอียนกุ้งจากติ่มซำเมื่อวันแรก (ซึ่งจะแนะนำเป็นร้านต่อไป)
ขอเสริมนิดนึงว่าถึงจะเป็นร้านห้องแถวแบบบ้านๆ แต่คุณลุงแกบริการได้ใจมาก ถึงไม่ได้เรียบร้อยอะไรแบบโรงแรมห้าดาว แต่แกก็ช่วยโน่นนี่เต็มที่ พลิกปลา ตัดหั่น ฯลฯ ตลอด เจ๋งมากลุง!
6. ร้านเด็ด - ติ่มซำไฮโซ และ ทาร์ตไข่
ร้าน Dim Sum 譽滿坊 นี้ได้รับคำแนะนำมาจากคนรู้จักของอ้อนครับ ซึ่งก็มีการรีวิวกันไปแล้ว วันนี้จะมาขอคอนเฟิร์มอีกคนว่า อร่อยจริงๆ ขนมจีบ ฮะเก๋าที่นี่ไซส์ XL มากๆ (กุ้งสามตัว) แถมมีทอปปิ้งแฟนซีร้อยแปดอย่าง ไอ้เราก็บ้าเห่อสั่งมาซะเยอะ ทั้งแบบทอป Scallop ทอปหูฉลามและทองคำเปลว ฯลฯ ปรากฎว่าเอียนกุ้งกันไปเลย เพราะข้างล่างมันก็เหมือนกันหมดนั่นแหละ :P
เมนูอื่นๆที่สั่งในวันนั้นก็อร่อยสุดๆไม่แพ้กัน ตั้งแต่ คะน้าพันเบค่อนราดน้ำมันหอย ข้าวอบหน้าหมูคลุกปลาเค็มในกระบอกไม้ไผ่ ซุปลอปสเตอร์หูฉลามอบแป้งพัฟ ฯลฯ ขอย้ำว่าร้านนี้อบแป้งพัฟอร่อยมากๆๆๆๆๆ ซาจุยโซว (เรียกงี้ป่าวหว่า ที่เป็นแป้งพัฟไส้หมูแดง) อร่อยเทพจริงๆ แป้งหอม บาง กรอบ + ไส้เข้มข้นได้ใจ ที่สำคัญคือพอออกมาเป็น 'ทาร์ตไข่' ซึ่งคราวที่แล้วก็ไปกินหลายร้าน และคราวนี้ก็แทบจะกินทุกร้าน ขอเรียงลำดับไว้ที่หนึ่งไปเลย ด้วยความที่แป้ง หอม บาง กรอบกำลังดี ส่วนตัวคัสตาร์ดก็เนียนนุ่มสุดๆ กัดแล้วยังเด้งดึ๋งๆอยู่เลย >_<
ส่วนพุดดิ้งมะม่วงที่นี่ก็นุ่ม เนียน หอมได้ใจมากๆเหมือนกัน ไม่เหมือนบ้านเราที่แข็งๆ ไม่ก็กลิ่นครีมนำ (แถมภาพพุดดิ้งเผือกให้ด้วย :P)
สำหรับราคาถือว่าสมเหตุสมผล ถึงจะดูแพงนิดๆแต่ก็ยังคุ้มน่าาาา ก็ย่านนั้นดูท่าทางจะเป็นย่านคนรวย เดินผ่านถนนมีแต่คนจูงหมาเดินเต็มไปหมด ส่วนรถนี่ก็สุดๆ ในช่วง 30 วินาทีเห็น Maserati, Benz, BMW, Ferrari, Porche ผ่านตาไปอย่างรวดเร็ว -*-
ขอปิดท้ายด้วยร้านเก็บตก กับชูครีม Coco Franc ซึ่งเป็น Beard Papa เวอร์ชั่นพรีเมียมนั่นเอง ขอบอกว่าชูครีมโยเกิร์ตสตรอเบอรี่สดอร่อยมากกกกกกกกก ร้านนี้อยู่ MTR Tsim Tsa Tsui ครับพ้ม
ขอจบการรายงานแต่เพียงเท่านี้ สนใจพิกัดร้านใดติดต่อหลังไมค์มาได้คร้าบ
วันก่อนว่างๆ เข้าไปบอร์ดเพลงไปโหลด Suemitsu & The Suemith มาครับ...พี่คนนี้เป็นนักเปียโน+นักร้องในตัว ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าแนวเพลงเป็นไงจนกระทั่งเปิดฟังดู ....ฟังปุ๊บ คลิกโคตร! (ฮา).. ตอนแรกก็นึกว่าจะอารมณ์ประมาณ Jamie Cullum หรือไรงี้ ปรากฏว่าไม่แฮะ ของพี่เค้าแรงโคตร เป็นประเภทบ้าพาว ตีคอร์ดกระแทกๆ เบสวิ่งฉิว กีต้าร์ไฟฟ้าแหลมเปี๊ยวว เพอร์คัชชั่นรัวไม่ยั้ง... เล่นเอาเพลง All I want for christmas จากต้นตำหรับใสๆงิ้งๆ กลายเป็นอารมณ์ปาร์ตี้โวยวายไปซะงั้น (ถึงว่า tag ในเพลงที่โหลดมาตั้งเป็น category J-Rock ซะงั้น)
เวอร์ชั่น MV จริง เหนนิ้วแล้วปวดแทน... เล่นแบบนี้เหนื่อยนะเนี่ย ร้องทับเข้าไปอีกได้ไงก็ไม่รู้ -*- (หรือไม่ได้ร้องพร้อมกันวะ ไม่อยากเชื่อว่าจะทำสองอย่างพร้อมกันได้)
เห็นแล้วสงสารเปียโน
แต่ฟังเอาเข้าจริงกลับฟังเข้าได้ไม่นาน... เพราะเสียงดันออกมาอุดอู้สุดๆ ซึ่งส่วนหนึ่งก็คงต้องยอมรับว่าทั้งทรัมเป็ต เบส เปียโน และสารพันเครื่องดนตรีที่ประดังกันเข้ามานั้นอาจตีกันได้ และอาจจะเป็นเพราะไฟล์ไม่ดี แต่บิทเรทก็ 320 แล้ว น่าจะออกมาได้ดีกว่านี้หน่อย
แล้วก็มาถึงบางอ้อ... เพราะพอเปลี่ยนสายลำโพงจากเสียบเข้า macbook มาเป็น iPod 3G รุ่นเดอะเท่านั้นแหละ เสียงต่างกันฟ้ากับเหว... ถึงจะแอบรู้สึกว่ามันยังใสได้กว่านี้อีก (อาจจะต้องลองซื้อ CD) แต่ก็ดีขึ้นมากกก
สำหรับใครที่สงสัยว่า iPod Touch นั้นเสียงเป็นไง... ขอตอบว่ากระดูกคนละเบอร์กันแน่ ถึงจะดีกว่า macbook แต่กำลังขับน้อยกว่า 3G แน่ๆ และยังอุดอู้กว่าเยอะครับ
ก่อนไปฝากเพลงแจ้งเกิดของเฮียแกละกัน เป็นเพลงเปิด Nodame Cantabile (Anime) ถึงเท่าที่ฟังในอัลบั้มรวมฮิตมาจะไม่ใช่เพลงที่โดนสุด แต่ก็คงพอเข้าคอนเซปว่า พี่แกเค้าแรงจริงงง ไม่ได้โม้ (และไม่ง้องแง๊งแบบโต๋คุงแน่ๆ)
เวอร์ชั่น MV จริง เหนนิ้วแล้วปวดแทน... เล่นแบบนี้เหนื่อยนะเนี่ย ร้องทับเข้าไปอีกได้ไงก็ไม่รู้ -*- (หรือไม่ได้ร้องพร้อมกันวะ ไม่อยากเชื่อว่าจะทำสองอย่างพร้อมกันได้)
เห็นแล้วสงสารเปียโน
กลับมาแล้ว!
ขอไม่พูดอะไรมากว่าทำอะไรหายไปตั้งนาน เอาเป็นว่า ไหนๆมีโอกาสได้หยุดอยู่บ้านยาวๆสักที ขอกลับมาเขียนระลึกความจำตัวเองก่อนละกัน กับโคตรทริปญี่ปุ่นที่เพิ่งไปเมื่อช่วงสงกรานต์มานี้
นับเป็นการเยี่ยมแดนอาทิตย์อุทัยเป็นครั้งที่ 4 แต่ขอโทษ... เพิ่งจะเป็นครั้งแรกที่ได้เหยียบโตเกียว... เพราะงั้น ขอสรุปความโดยคร่าวสำหรับผู้ที่คิดจะไปโตเกียวครั้งแรก
1. ไปไหนดี
เอาเป็นว่า ขอสรุปเป็นย่านๆดังนี้ (พยายามเรียงลำดับตามความชอบ)
Top 5 - Must Go
- Shibuya - ต้องไปให้ได้ พลุกพล่าน ล้นหลาม ร้านค้ามากมาย ห้างเริ่มเปิดตั้งแต่ 10.00 ปิดประมาณ 21.00 (ส่วนมากที่อื่นเปิด 11.00-20.00) มีทุกอย่าง Shibuya 109 ตึกผู้หญิง Shibuya 109-2 ตึกผู้ชาย (แต่ตึกนี้ชุดแรงไปหน่อย ไม่กล้าใส่ว่ะ), Franc Franc ของแต่งบ้านสุดเท่ห์, Loft เจ้าเก่า, Tokyu Hands, Tower Records, HMV, ABC Mart, etc... (แต่ Uniqlo ที่นี่เล็กไปหน่อย ที่เห็นใหญ่ๆอีกที่รู้สึกจะอยุ่ Ginza) ที่พลาดไม่ได้คือ Ichiran Ramen ราเมงข้อสอบ อร่อยโคตรๆๆ ไม่ลองไม่รู้
- Daikanyama - ย่านชอปสุดฮิป อารมณ์เหมือนเดินตามซอยในสุขุมวิทแล้วเจอร้านเด็ดๆมากมาย ตั้งแต่ร้านทั่วไปยัน Diesel, Onitsuka Tiger ไม่น่าเชื่อว่าห่าง Shibuya แค่สถานีเดียวจะให้ฟีลต่างกันขนาดนี้
- Jiyugaoka - ย่านนี้ก็ต้องไปให้ได้ เป็นย่านชิลๆที่ผู้หญิงญี่ปุ่นอยากมาอยุ่ที่สุดหลังแต่งงาน (ไม่ต้องทำงาน) ถนนคนเดินร่มรื่นมีต้นไม้ตรงกลาง เต็มไปด้วย Cafe และร้านขนมมากมาย (อร่อยสุดๆ)
- Aoyama/Omotesando เต็มไปด้วยร้าน Brand Name ออกไปทาง Luxury แต่บรรยากาศชิลๆ อารมณ์เดินอยู่ในซอย มองไปในที่จอดรถ แล้วเห็นแต่ Benz BMW Porche Jaguar จอดเรียงรายกันอยู่ (ประมาณว่าย่านนี้รวยจริงโดยไม่ต้องเบ่งกับใคร) สรุปว่าน่าเดิน ไม่ควรพลาด Miyagawa Tempura, A To Z Cafe สุดฮิปและมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว, Prada Flagship Store (ดูข้างนอกก็พอ หรูโคตร, Paul Smith Space (ไม่มีโอกาสได้ไปเดิน แย่จัง... อังกฤษยังไม่มีเล้ยย) ที่พลาดไม่ได้อีกที่ก็คือ Cat Street ซึ่งเชื่อม Omotesando กับ Shibuya ที่นี่ก็อีกถนนสุดฮิปอารมณ์คล้ายๆ Daikanyama มีร้าน Nike ที่ดูไม่เหมือนร้าน Nike และให้ลูกค้าออกแบบรองเท้า Nike ของตัวเองได้เลย
- Kichijoji (Must Go สำหรับคนชอบกินเนื้อ).. ไปลองประสบการณ์"ดื่ม"เนื้อ Matsusaka เกรด A5 แต่ราคาไม่ทำร้ายกระเป๋าได้ที่ Steak House Satou แล้วจะรู้ว่าเนื้อที่ Juicy สุดๆ กินแล้วละลายในปากแต่ไม่ละลายในมือเป็นอย่างไร!!! ที่นี่ยังมีสวน Inokashira Park ที่สวยมากเวลาหน้าซากุระ ซึ่งถนนคนเดินก่อนถึงสวนเต็มไปด้วยร้านเสื้อผ้าที่น่าชอปสุดๆ (จริงๆ) ถ้าใครเป็นแฟน Ghibli Studio ก็ไม่ควรพลาด Ghibli Museum ที่นี่เช่นเดียวกัน
Other Places ... ควรโฉบไป
- Harajuku ถ้าไปวันธรรมดา จะหงอย ไม่มีอะไร ไม่ใช่ที่สำหรับเรา 555 (เหมาะสำหรับวัย Kamikaze) ยกเว้นร้าน H&M Flagship Harajuku และ Edwin Jeans (อีกแบรนด์ยีนส์ชื่อดังของญี่ปุ่น)
- Roppongi ตระการตาสถาปัตยกรรม โดยเฉพาะ Tokyo Midtown ซึ่งแย่งความเด่นไปจาก Roppongi Hills เพราะอะไรต้องไปดูด้วยตัวเอง สวยมากกกกก
- Tsukiji ตลาดปลาชื่อดัง แต่ควรไปลงที่สถานี Tsukijishijo (สาย Toei)
Other Places... ไม่ไปก็...ไม่เป็นไรมั้ง
- Yurakucho/Ginza แนะนำให้ไป Muji Yurakucho สาขาใหญ่สุด ขายบ้านด้วย! ข้างๆมี Big Camera ที่มีหูฟัง Earphone ให้ลองเยอะมากกกก (ร้านแถว Akihabara กะ Shibuya ไม่ยักกะมีให้ลอง มีแต่แบบ Headphone ให้ลอง) ส่วน Ginza ไปโฉบๆตอนกลางคืน ดูแสงสีและความตระการตาของสถาปัตยกรรมร้าน Flagship ของบรรดา Luxury Brand
- Shinjuku มีดีที่ Isetan (แนะนำให้ไปลงที่สถานี Shinjuku-Sanchome เชื่อมห้างเลย ไม่วุ่นวายหาทางออกไม่เจอแบบ Shinjuku) โดยเฉพาะชั้นใต้ดินแผนกอาหาร ตระการตาสุดๆ นอกนั้นก็เฉยๆ มีแต่ตึกออฟฟิศ
- Odaiba ถ้ามีเวลาก็น่าข้ามฟากไปเกาะเมืองใหม่ ดูสถาปัตยกรรมแปลกๆเจ๋งๆ เทพีเสรีภาพ ลูกโลกLED ใน Miraikan (พิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์)
- Akihabara ไปให้รู้ว่าย่านนี่เป็นไง เพราะพวกกล้อง iPod ไม่ได้ถูกกว่าไทยเท่าไหร่เลย (ยกเว้นเครื่องเล่นเกม) แหล่งรวม AV ตู้เกมส์ และบรรดาเมดที่ออกมาเรียกลูกค้าไป Maid Cafe' (เสียดายพูดญี่ปุ่นไม่เป็นไม่งั้นคงไปลองและ)
- Ueno พอดีวันที่ไปเป็นวันธรรมดา ซากุระร่วงหมดแล้ว เลยเฉยๆ ไม่เห็น street show ที่ล่ำลือกัน ที่นี่มี museum/gallery/concert hall เจ๋งๆอารมณ์แบบ big 3 ใน london ถ้าไม่ได้อยู่แถวนั้นก็คงไม่ต้องถ่อไปก็ได้
- Asakusa ถ้าไม่ได้คิดจะซื้อของที่ระลึกอะไร กับไปวัดที่อื่นแล้ว ก็ข้ามไปเหอะ
จริงๆมีย่านที่อยากไปแต่ยังไมไ่ด้ไปเช่น Shimokitazawa ไว้วันหลังไปโฉบจะมาอัพเดทละกัน
2. ย่านที่พัก
เพราะได้รับความอนุเคราะห์จากโดมในการเจียดพื้นที่หอพักให้ เลยสามารถแนะนำที่พักดีๆถูกๆในโตเกียวได้ แต่อย่างน้อย... ก็พอแนะนำ(ตามความรู้สึก)ได้ว่า ... ถ้าเป็นไปได้ หาที่พักแถวย่าน "Shibuya" น่าจะเป็นทำเลที่ดีที่สุด (แม้ว่า Narita Express อาจไม่ได้จอดที่นี่ทุกเที่ยวก็ตาม)
เหตุก็เพราะ... Shibuya ใกล้ไปหมดทุกอย่าง ทั้ง Shinjuku, Omotesando, Harajuku, Roppongi รวมไปถึงย่านชานเมืองสุดฮิปที่ไม่ควรพลาด ทั้ง Daikanyama, Jiyugaoka, Nakameguro, Kichijoji ซึ่งเป็นย่านเที่ยวหลักของโตเกียว
แล้วย่านอื่นๆ ล่ะ
- Ueno/Asakusa ไกลชาวบ้านเค้า ย่านนั้นอยู่แถวทิศ NE ก็มีที่เที่ยวแค่ Ueno, Asakusa, Akihabara ซึ่งถ้าเทียบกับ Shibuya ที่อยู่ทิศ SW ถือว่าห่างชั้นกันเยอะ
- Tokyo/ Ginza แถวนี้เป็นสถานีใหญ่ (สำหรับ Shinkansen) ที่เที่ยวใกล้ๆก็มี Ginza, Tsukiji, Odaiba ก็.. โอแหละมั้ง แต่ที่เที่ยวหลักๆก็ไม่ใช่ย่านนี้อยู่ดี
- Shinjuku จริงๆก็ดูเป็นย่านสุดฮิตที่น่าไปพักดี แต่... ปัญหาใหญ่ที่สุดของ Shinjuku ก็คือ... สถานีรถไฟนั่นแหละ... ถ้าไปโตเกียวครั้งแรก อย่าคิดลองดีกับสถานีนี้เลยครับ... สถานีรถไฟที่ยุ่งยึบยับที่สุดในโลก ด้วยขนาดใหญ่สุดๆ มีกี่ชานชาลาก็มิทราบได้ จะเปลี่ยนชานชาลาบางครั้งต้องลงโน่นแล้วไปขึ้นบันไดนี้ เชื่อมห้างไม่รู้กี่ห้าง... สรุปคือ... รับประกันความหลง สุดท้ายจะไม่ได้ไปไหนเลย 55
3. การเดินทาง
ด้วยรถบบรถไฟที่ยุ่งเหยิง และมี Pass ต่างๆมากมาย ทำให้การวางแผนเที่ยวควรจะคำนึงถึงสายรถไฟที่วิ่งให้ดี ซึ่งหลักๆก็มี
- JR Yamatone วิ่งเป็นวงกลม ใครมี JR Pass สามารถใช้ได้ มักผ่านสถานีใหญ่ๆหลักๆ เช่น Harajuku, Shinjuku, Shibuya, Ueno, Tokyo
- Metro ซึ่งต้องดูดีๆ เพราะถึงจะเป็นใต้ดิน โลโก้เหมือนกัน แต่จริงๆมันมีสองบริษัททำกันอยู่ อันแรกคือ Tokyo Metro Line ซึ่งมีพาสขาย หลักๆก็คงได้เดินทางโดยสายนี้ อีกบริษัทคือ Toei Line วิ่งบางเส้น ที่สำคัญๆก็คือสถานี Tsukijishijo ซึ่งอยู่หน้าตลาดปลาเลย ใครจะซื้อ Tokyo Metro Pass ต้องระวังให้ดีเพราะไม่ครอบคลุมถึงสาย Toei!!!
- สายรอบเมือง ยังมีรถไฟเอกชนอีกหลายเจ้า ซึ่งพาสไหนๆก็ไม่คลุม เช่น Daikanyama, Jiyugaoka, Kichijoji อันนี้ต้องจ่ายเอง
ข้อแนะนำ
- ดูสถานีปลายทางให้ดีๆ รถบางขบวนอาจติ๊งต๊องเปลี่ยนสายกลางคัน (ประมาณว่าวิ่งสายสุขุมวิทแล้วอยู่ดีๆเปลี่ยนไปวิ่งสายสีลมซะงั้น)
- หากนั่งรถไฟชานเมือง กรุณาศึกษาให้ดีว่านั่ง Local หรือ Express (ข้ามบางสถานี) ไม่ใช่สถานีที่จะไปต้องนั่ง Local แต่ดันไปนั่ง Express
- อย่าพยายามเปลี่ยนรถไฟหลายสาย หากช่วยย่นระยะทางได้แค่ 2-3 สถานี เพราะบางสายแม้สถานีเดียวกันก็ห่างกันตั้ง 300 เมตร
เพิ่งรู้ตัวว่าเขียนยาวโคตร เอาแค่นี้ละกันครับ ขอบคุณ
Post a Comment