« Home

Welcome to my course!

ไม่รู้เหมือนกันว่าโดนยุท่าไหนถึงได้มาเขียน เห็นหลายคนเขียนมาหลายเดือนไม่เห็นนึกอยากเขียนบ้างเลย ทำไมเพิ่งมานึกทำก็ไม่รู้

ความจริงไม่อยากเรียกว่านี่คือ Diary เท่าไหร่ เพราะคงจะเขียนถึงบางสิ่งที่ได้พบในวันนั้นแล้วดลใจให้มาเขียนซะมากกว่า

นี่คงเป็นอีกเหตุผลที่มาเริ่มเขียน เพราะไม่ได้บริหารความคิดมานานแล้ว ได้มีโอกาสมาหยุดพิจารณาอะไรรอบๆตัวเราซะหน่อยก็คงจะดี

ยินดีต้อนรับครับ




มาเริ่มเลยดีกว่า

วันนี้หลังจากล้มเลิกความตั้งใจที่จะไปเดินงานหนังสือ เนื่องจากจำนวนคนที่อัดเข้าไปจนแทบไม่มีโอกาสได้จับต้องหนังสือที่วางอยู่ ก็เลยนั่งรถใต้ดินแวะ IT Mall เพื่อไปดูราคา iTalk (add-on อัดเสียงของ iPod)

"เครื่องละ 2500 ค่ะ" เสียงคนขายกังวาลอยู่ไหนหัว เช้ดเข้ทำไมแม่งแพงงี้วะ เมกาขายแค่พันหกกูก็ว่าแพงแล้วนะ แต่ความจริงก็เตรียมใจมาก่อนแล้วล่ะว่าแม่งต้องโก่งราคาแน่ๆ

อยากรู้จัง ว่าคนขายของราคาแพงๆนี้ ถ้าเป็นคนที่ไม่ค่อยมีฐานะดี(ก็คือไม่มีปัญญาซื้อของที่ตัวเองขายนั่นแหละ) ต้องขายของราคาแพงๆ ให้ลูกค้าต้องสะดุ้ง เค้าจะรู้สึกดูถูกลูกค้าว่า "ไอ้เหี้ยไม่มีเงินแล้วเสือกจะมาถามราคา" หรือว่าเห็นใจลูกค้าว่า "เหี้ยทำไมแม่งตั้งราคาเว่ออย่างงี้วะ" กันแน่ มันจะสะทกสะท้านกันบ้างไม๊เวลาเอ่ยราคาหลักหมื่นหลักแสนใส่ลูกค้าเหมือน "ก็ของระดับนี้ ราคาแค่นี้ก็ถูกแล้วนะ" หรือมันจะแอบพนันกับเพื่อนข้างหลังร้านก่อนเดินมาหาลูกค้าว่า "ไอ้นี่ไม่มีปัญญาซื้อแน่ๆ"

"เอ่อ แต่ตอนนี้ของหมดค่ะ" อืมมม... คำนี้ดูเหมือนจะช่วยตัดสิ่งที่กำลังวิ่งในหัวว่า จะเดินออกจากร้านยังไงให้ดูมีเชิงที่สุด คิดว่าหลายๆคนคงเป็นกัน เวลาเห็นของที่อยากได้จริงๆ ทั้งๆที่รู้ว่าแม่งแพง เรามักจะเจออุปสรรค 4 อย่างหลักๆ

1. อยากไปดูของใจจะขาด แต่กลัวคนขายเขม่นว่าไม่มีปัญญาซื้อแล้วจะมาดูอีก
2. หลังจากรวบรวมความกล้าเข้าไปดูแล้ว แน่นอน ถ้ามีราคาติดอยู่ คำพูดที่กลัวที่สุดคือ "มีอะไรให้ช่วยไม๊คะ" หรือ "สนใจอันไหนคะ" (พูดง่ายๆ just leave me alone, please!) หรือ ถ้าไม่มีราคา ก็ต้องรอรับชะตากรรมไว้กับคนขายต่อไป
3. พอทราบราคาแล้ว จะต้องแสดงความคิดเห็นกลับต่อคนขายอย่างไร เช่น อ้าปากหวอด้วยความช้อค หรือทำเป็น อื้ม ถูกดีนี่ หรือไม่ก็ ถามราคาของชิ้นอื่นไปเรื่อยๆ ทำเป็นสนใจชิ้นโน้นชิ้นนี้ ทั้งๆที่ไม่ได้สนแม่งหรอก ไม่รู้จะปลีกตัวหนีอย่างไร
4. จะเดินออกไปจากร้านยังไงให้ดูดีที่สุด

อย่างไรก็ตาม คนขายคนเดิมพูดต่อว่า "เอ่อ แต่ตอนนี้จริงๆแล้ว มีของมือสองที่เค้าฝากขายไว้นะคะ 2000 บาท จะดูไม๊คะ"

"อ้า... ดีครับ"


โปรดติดตามตอนต่อไป "มือสอง และ lowcost"

ปล. ความจริง ไอ้ที่เขียนมาวันนี้เนี่ย มันคือเกริ่นนำของเรื่องพรุ่งนี้ แต่รู้สึกว่าแม่งจะยาวไปและ เลยแยกวันเขียนดีกว่า เหอๆ (เลือดนักเขียนกระฉูด)

ปปล. ขออภัยในคำหยาบคับ

0 Comments
Post a Comment

{J}aroz' Blog

Location : Bangkok, Thailand, Planet Earth

Latest {J}

{J} Trip

 

  • {J} Life

{J} Links

  • =A^o^N= วิดวะแบกเลนส์ถือกล้องไปถ่ายรูป
  • Bliss* live / storythai พลอยพีพี ผู้มีสองมาตรฐาน (บล็อก)
  • Empty Space บล็อกลิงเล่นเบส
  • LittleJournal บล็อกสุดฮาของสาวภาคคอม ผู้(เคย)ไม่รู้จัก silicon valley
  • Ma-mEw"z เหมี่ยว เพื่อนเวิร์ค
  • NuttyGM มันหายไปไหนแล้ววะตอนนี้
  • Nisa บล็อกอินเตอร์ บาย โบ
  • Nsom บล็อกป้าหมอ ที่หริราด
  • TeddyBank แบงค์กี้ เดอะหมีวิคตอเรีย chu chu
  • [Z]kyha[x] ไอ้ตี๋ ผู้เล่นเกมส์พิซซ่าเป็นนิจ

{J} Archives

คลังบล็อกเก่า(month.year)



Search

Web Jaroz' Blog

Creative Commons License
This work is licensed under a Creative Commons Attribution-Noncommercial-Share Alike 3.0 License. XML

Powered by Blogger

make money online blogger templates



© 2007 Jaroz' blog |Original Template by Gecko and fly
Revolution2 : Path to the future! Version since 29 Aug 2007
First Published on 24 Oct 2004